สธ. สรุปสถานการณ์ไวรัสอู่ฮั่น วันนี้ (27 ม.ค. 63) คงที่ 8 ราย กลับบ้านแล้ว 5 ราย อีก 3 ราย ยังอยู่ รพ.

กระทรวงสาธารณสุข สรุปรายงานสถานการณ์ไวรัสโคโรนาล่าสุด 27 ม.ค. 63 เวลา 08.00 น. พบผู้ป่วยติดเชื้อจากต่างประเทศ 8 ราย (ทุกรายเดินทางมาจากประเทศจีน) กลับบ้านแล้ว 5 ราย อีก 3 รายนอนดูอาการในโรงพยาบาล

ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 84 ราย คัดกรองจากสนามบิน 24 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 60 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 45 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรับไว้ในห้องแยกโรค 39 ราย

สถานการณ์ทั่วโลก ข้อมูล ตั้งแต่ 5 – 25 ม.ค. 63 พบผู้ป่วย 21 ราย ใน 10 ประเทศ ส่วนประเทศจีน ข้อมูล ณ วันที่ 25 ม.ค. 63 พบผู้ป่วย 1,303 ราย เสียชีวิต 41 ราย

ข้อแนะนำประจำวันในการป้องกันตนเอง จากโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019

สาธารณรัฐประชาชนจีน ประกาศปิดการเดินทางสาธารณะที่เข้าออกเมืองอู่ฮั่น และพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ทุกช่องทาง พร้อมคำแนะนำ ดังนี้
• หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่น และเมืองที่มีการระบาดตามคำประกาศของทางการจีน
• หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือมีมลภาวะ และไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม แนะนำควรสวมหน้ากากอนามัย
• หลีกเลี่ยงการเข้าไปตลาดค้าสัตว์มีชีวิต การสัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกับสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ที่ป่วย หรือตาย และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรวมถึงเนื้อสัตว์ที่ไม่สุกดี
• หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น
• ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น (เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว) เนื่องจากเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดินหายใจสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ ทางการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ
• รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
• หลังเดินทางกลับถึงประเทศไทย ภายใน 14 วัน ถ้ามีอาการไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทาง เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวม และมีอาการรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้

มีข้อสงสัย สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชม. เว็บไซต์ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/intro.php ติดตามข่าวเพจเฟซบุ๊ก : รู้กันทันโรค, เพจเฟซบุ๊ก : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

ร่วมแสดงความคิดเห็น