ข่าวเชียงใหม่ ข่าวเด่น สังคม29 ม.ค. 6330 ม.ค. 20pearsaralee คืบหน้า! ถนนเลี่ยงเมืองจอมทอง ชาวเวียงหนองล่อง ยังอ่ำอึ้งถนนตัดผ่าน 29 ม.ค. 63 เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2563 ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอเวียงหนองล่อง จ.ลำพูน นางสุพัตรา นิ่มกุล นายอำเภอเวียงหนองล่อง ร่วมกับตัวแทนแขวงการทางลำพูน เปิดการประชุม โดยนายบุญชัย จิตรพลี วิศวกรงานทาง ชี้แจงความเป็นมา วัตถุประสงค์ รายละเอียดโครงการ แนวคิดในการกำหนดทางเลือกรูปแบบโครงการ และสรุปผลการคัดเลือกรูปแบบการพัฒนาที่เหมาะสมของโครงการ นายมนูญ แสงเพลิง ผู้ชำนาญการด้านสิ่งแวดล้อม เสนอเรื่องการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม และ ผศ.วิวัฒน์ อังศุสิงห์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน ดำเนินรายการ ท่ามกลางชาว อ.เวียงหนองล่อง ให้ความสนใจเข้ารับฟังเต็มห้องประชุม ตัวแทนจากสำนักสำรวจและออกแบบ กรมทางหลวง แจ้งว่าโครงการสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร ทางเลี่ยงเมือง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ มีความจำเป็นต้องตัดผ่านเข้ามาฝั่งตะวันตกในเขต จ.ลำพูน เพราะจะเป็นทางหลวงมาตรฐานความกว้าง 60 เมตร ตัดจาก ต.ข่วงเปา อ.จอมทอง ข้ามแม่น้ำปิงไปยังเขต อ.เวียงหนองล่อง และ อ.บ้านโฮ่งแล้ววกกลับเข้าทางหลวงหมายเลข 108 เชียงใหม่-ฮอดที่ ต.สบเตี๊ยะ อ.จอมทอง ซึ่งเรียกว่าสาย B โดยมีสายย่อยเพิ่มขึ้นอีกเป็นสาย A และ C ส่วนในเขต อ.จอมทองได้สำรวจเป็นทางขนาด 40 เมตร แต่ติดอยู่ที่ยังไม่ได้ประกาศผังเมืองจอมทอง การดำเนินการในขั้นตอนนี้ เพื่อมารับฟังความคิดเห็นจากประชาชนว่าเห็นด้วยหรือไม่ และจะเสนอเพิ่มเติมอย่างไร จากนั้นในเดือนเมษายนนี้ คาดว่าจะทราบชัดเจนว่าแนวเส้นทางจะตัดเข้าไปในที่ดินแปลงใด ซึ่งจะมีการเวน คืนตามระเบียบต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนใน ต.หนองล่อง แสดงความคิดเห็นว่าการตัดทางหลวง 4 เลนผ่านหมู่บ้าน จะทำให้เกิดความเดือดร้อนหลายประการทั้งเสียง ความเร็ว และอันตรายจากรถบรรทุกหิน ซึ่งเป็นรถ 18 ล้อผ่านวันหลายร้อยเที่ยว จะทำให้วิถีชีวิตของชาวบ้านเปลี่ยนไป เพราะมีการผ่าชุมชนออกเป็นสองข้าง นอกจากนั้นเรื่องค่าเวนคืนจะได้รับกี่เท่า ผู้เช่าที่ดินนายทุนปลูกต้นไม้จะได้รับหรือไม่ เป็นต้น ขณะที่นายเพลิน วรพงศ์วัฒนา นายกเทศมนตรีตำบลหนองล่อง กล่าวถึงเสริมถึงเรื่องดังกล่าว และห่วงใยหากตัดถนนผ่านแล้วไม่ได้สร้างสะพาน แต่ใช้ท่อเหลี่ยม ก็อาจเกิดน้ำท่วมในฤดูน้ำหลากได้ ส่วนนายสุวรรณ หอยแก้ว อดีตประธานสภา อบจ.ลำพูน การสร้างทางเลี่ยงเมืองจอมทองเป็นโอกาสดีของชาวลำพูน แต่ผลกระทบต่าง ๆ ก็มี รวมทั้งการเวนคืนที่ดินก็อาจจะมีเหมือนทางเลี่ยงเมืองลำพูน เหมืองง่า-ท่าจักรที่ทำโครงการตั้งแต่ปี 2542 ถึงปี 2563 ยังเปิดใช้ไม่ได้ อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้เปิดให้มีการซักถาม และนำเสนอประเด็นที่ยังค้าง เมื่อไม่มีจึงปิดประชุมเวลา 11.30 น. หลังเสร็จการประชุม นายเพลิน วรพงศ์วัฒนา นายกเทศมนตรีหนองล่อง กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า มีความเป็นห่วงเรื่องผลกระทบทั้งด้านเสียง และอันตรายจากยวดยานพาหนะที่จะผ่านจำนวนมาก เช่นที่บ้านต้นผึ้ง หมู่ 2 และหมู่ 8 เป็นชุมชนหนาแน่น ควรจะยกระดับสะพานข้ามแม่น้ำลี้ให้สูงขึ้น และรถท้องถิ่นสามารถลอดผ่านไปมาทั้งสองฝั่งได้ ส่วนนายศรีทน พอสุยะ ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำฝายวังปาน กล่าวว่า ชาวบ้านสงสัยการวางแนวทางเลี่ยงเมืองจอมทองที่ผ่านเข้ามาในเขต อ.เวียงหนองล่อง ราษฎรไม่ได้ประโยชน์จากการเวนคืนมากเท่านายทุน เพราะขีดเส้นทางด้านบน ตัดผ่านที่ดินแปลงใหญ่ของนายทุน บางส่วนชาวบ้านเข้าไปทำกินปลูกลำไย มะม่วงไว้ หากเวนคืนตนก็ไม่ทราบว่าชาวบ้านจะได้ค่าสินทรัพย์นั้นหรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ชี้แจงเพียงว่าใครเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ก็ได้ไป จริง ๆ แล้วถ้าตัดทางใหม่ลงมาจะทำให้ระยะทางสั้นลง แล้วเว้นจุดผ่านชุมชนบ้านต้นผึ้ง ค่าใช้จ่ายก็จะถูกลง จึงไม่ทราบว่าบริษัทที่ปรึกษาไปกำหนดเอาเองหรืออย่างไร ขอฝากสื่อไปถามด้วย ทางด้าน ผศ.วิวัฒน์ อังศุสิงห์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า กรณีที่ชาว อ.จอมทองเสนอให้กำหนดแนวทางเลี่ยงเมืองอยู่ในเขต อ.จอมทองเท่านั้น การเบี่ยงเส้นทางเลี่ยงเมืองข้ามแม่น้ำปิงไปทิศตะวันออก เขต อ.เวียงหนองล่องลำพูนไม่เห็นด้วย เพราะเท่ากับนำความเจริญข้ามไปจังหวัดอื่น ทั้งที่ชาวจอมทองเป็นผู้นำเสนอขอและเรียกร้องไม่ได้รับประโยชน์ในการขยายความเจริญออกจากชุมชน โดยเฉพาะนายณรงค์ ภูอิทธิวงศ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ เป็นผู้ติดตามการของบประมาณ 14 ล้านบาทมาสำรวจเส้นทางเลี่ยงเมืองสายนี้ เพื่อลดปัญหาความแออัดของคอขวดในเขตชุมชน ลดปัญหาอุบัติเหตุต่าง ๆ เนื่องจากมีรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งทุกวัน รวมทั้งป้องกันการกระทบกระเทือนองค์เจดีย์ของวัดพระธาตุศรีจอมทองด้วยนั้น ในความเห็นของ ผศ.วิวัฒน์ อังศุสิงห์ คือทางเลี่ยงเมืองสายนี้เป็นทางมาตรฐาน ต้องเวนคืนที่ดินกว้าง ไม่กระทบต่อโบราณสถาน สิ่งแวดล้อมและอื่นๆ ซึ่งการสำรวจออกแบบครั้งนี้ คณะก็ได้ออกแบบทางเลี่ยงเมืองอยู่ในเขต อ.จอมทองที่เรียกว่าสาย ค.1 (สีเหลือง)แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ประกาศผังเมืองจอมทอง จึงทำอะไรไม่ได้ หากมีการประกาศกรมทางหลวงก็จะสามารถสร้างทางสาย ค.1 ได้ ทั้งนี้แล้วแต่กรมทางหลวงจะพิจารณาว่าควรสร้างสายใดก่อน ซึ่งการประชุมรับฟังความคิดเห็นที่ อ.จอมทอง ในวันที่ 30 มกราคมนี้จะมีการรับฟังข้อเสนอ และชี้แจงให้เกิดความเข้าใจต่อไป. ร่วมแสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็น