หลังให้ข่าวบิดเบือนจนคู่กรณีเสียหาย พร้อมเปิดปากเล่าความจริง ทำไปเพราะโมโห สุดท้ายสำนึกผิดเข้าขอโทษ
วันที่ 29 ม.ค.63 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีบนโลกโซเชียลได้มีสมาชิกรายหนึ่งชื่อว่า “Aomamm Rawisada” โพสต์ข้อความและเรื่องราวเพื่อขอความช่วยเหลือ กรณีที่เจ้าตัวมีเรื่องทะเลาะกับพนักงานขับแกร็บไบค์ ซึ่งทางเจ้าตัวระบุว่าได้เกิดมีปากเสียงกันระหว่างขับรถ แล้วพนักงานขับแกร็บไบค์คนดังกล่าว ได้ใช้ของแข็งที่น่าจะเป็นก้อนหินขว้างปาใส่กระจกด้านหลังของรถยนต์ ได้รับความเสียหายแล้วหลบหนีไป โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเย็นเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 12 ม.ค.63 ที่ผ่านมา
แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ม.ค.63 ทางด้าน นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี พนักงานขับแกร็บไบค์ที่ปรากฎภายในคลิปดังกล่าว ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทางผู้สื่อข่าว ถึงเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งยืนยันด้วยว่า ไม่ได้ก่อเหตุใช้ก้อนหินปาใส่รถคู่กรณีแต่อย่างใด พร้อมทั้งกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อสู้คดี ตามที่ได้มีข้อมูลนำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น
ในส่วนของความคืบหน้าล่าสุดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เมื่อเวลา 17.30 น. วันนี้ นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี พนักงานขับแกร็บไบค์ที่ปรากฎภายในคลิป พร้อมด้วย น.ส.อ้อม (นามสมมุติ) และแฟนหนุ่ม ซึ่งเป็นคู่กรณีที่ได้มีการโพสต์เรื่องราวดังกล่าวลงในโซเชียล ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ เพื่อทำการเจรจาพูดคุยกันทุกฝ่าย แต่ในครั้งนี้ภายหลังการเข้าพบกับพนักงานสอบสวน และคู่กรณีแล้วนั้น ทางด้าน นายเสือ (นามสมมุติ) ได้ยอมรับสารภาพว่าได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ใช้ก้อนหินปาใส่รถยนต์ของคู่กรณีจริง ซึ่งผิดกับการให้ข้อมูลกับทางผู้สื่อข่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว
และจากการพูดคุยกัน ทางคู่กรณีได้ขอให้ นายเสือ (นามสมมุติ) ให้สัมภาษณ์ข้อเท็จจริงกับทางผู้สื่อข่าว เพื่อเป็นการแก้ไขข้อมูล เนื่องจากทำให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก พร้อมทั้ง นายเสือ (นามสมมุติ) ได้กล่าวขอโทษและมอบกระเช้า เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบ และยืนยันว่ายินดีชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซึ่งได้มีการคุยกับประกันภัยแล้ว คิดเป็นเงินค่าเสียหายประมาณ 8,000 กว่าบาท และทาง น.ส.อ้อม (นามสมมุติ) กับแฟนหนุ่ม คู่กรณี ก็ไม่ได้ติดใจเอาความอีกทั้งยินยอมที่จะถอนแจ้งความให้อีกด้วย
โดยทาง นายเสือ (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า ตนยอมรับว่าได้เป็นผู้ก่อเหตุใช้ก้อนหินปาใส่รถคู่กรณี ในวันที่มีปากเสียงกันจริง สาเหตุเพราะเกิดความโมโหที่คู่กรณีขับรถไม่สุภาพ และเนื่องจากการที่มีปากเสียงกัน ซึ่งตนได้จอดรถข้างทาง และคว้าก้อนหินขนาดใหญ่ประมาณฝ่ามือ ปาใส่กระจกด้านหลังรถของคู่กรณี จากนั้นก็ขับรถหลบหนีไป ส่วนในตอนแรกที่ให้ข้อมูลเท็จกับทางผู้สื่อข่าวไปนั้นก็เนื่องจากกลัวความผิดและกลัวโซเชียลจะต่อว่า
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเรื่องไปแล้วนั้น ตนก็ได้ถูกยกเลิกการจ้างงานอย่างถาวร และไม่สามารถกลับไปขับแกร็บได้ ขณะเดียวกันจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ตนก็ได้บทเรียนและอยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์เกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนน ทั้งรถเล็กรถใหญ่ให้ขับรถมีน้ำใจ และใจเย็นกันให้มากๆ รวมไปถึงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นมาอีก และในส่วนของคู่กรณี ตนก็ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว และตนยินดีรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
ร่วมแสดงความคิดเห็น