ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบ จากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 จากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ส่งผลให้เกิดความต้องการหน้ากากอนามัยเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัว เพื่อนำไปใช้สวมใส่ป้องกันตัว โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่ต่างพากันหาซื้อหน้ากากอนามัย ตามร้านขายยาทั่วพื้นที่ เพื่อใช้สวมใส่ระหว่างท่องเที่ยว และกว้านซื้อเพื่อนำกลับประเทศจีนด้วย ทำให้เวลานี้เกิดสถานการณ์หน้ากากอนามัยขาดตลาด และราคาเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
![](https://cdn.chiangmainews.co.th/wp-content/uploads/2020/01/05015324/1-305-800x450.jpg)
เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2563 จากการสังเกตการณ์ย่านนิมมานเหมินทร์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นย่านท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีน พบว่ายังคงมีนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เดินเที่ยวชมจำนวนมาก แม้ว่าอาจจะดูเบาบางลงจากช่วงก่อนหน้านี้ โดยที่ส่วนใหญ่ต่างพากันสวมใส่หน้ากากอนามัยไว้ตลอดเวลาด้วย ขณะเดียวกันพบว่าตามร้านขายยาทุกแห่ง ทั่วทั้งย่านนิมมานเหมินทร์ ต่างมีนักท่องเที่ยวชาวจีนที่แวะเวียน เข้าไปหาซื้อหน้ากากอนามัยกันไม่ขาด เพื่อจะนำกลับไปใช้ที่ประเทศจีน ในช่วงที่มีสถานการณ์ของโรคปอดอักเสบ จากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ด้วย ซึ่งร้านขายยาหลายแห่ง ขายหน้ากากอนามัยจนหมดเกลี้ยง
![](https://cdn.chiangmainews.co.th/wp-content/uploads/2020/01/05015324/2-238-800x450.jpg)
จากการสอบถามเจ้าของร้านขายยาแห่งหนึ่ง ย่านนิมมานเหมินทร์ บอกว่า ตั้งแต่ช่วงประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ เริ่มมีชาวจีนมาหากว้านซื้อหน้ากากอนามัยแล้ว เพื่อนำกลับไปประเทศจีน กระทั่งช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หน้ากากอนามัยทุกชนิดเริ่มเกิดภาวะขาดตลาด และราคาต้นทุนที่รับมาขาย เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวด้วย ยกตัวอย่างเช่น หน้ากากอนามัยแบบธรรมดา ที่เคยมีต้นทุนเพียงชิ้นละประมาณ 1 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 5-7 บาท เป็นต้น ซึ่งพบว่าบางร้านจากที่เคยขายหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา กล่องบรรจุ 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 100 บาท เพิ่มเป็น 500 บาท ก็ยังมีคนจีนที่พร้อมจะซื้อ
![](https://cdn.chiangmainews.co.th/wp-content/uploads/2020/01/05015323/3-214-800x450.jpg)
ร่วมแสดงความคิดเห็น