รพ.ลำปาง รณรงค์ 5 ส. จิตอาสาป้องกันการแพร่ระบาด ของไวรัสโคโรนา และฝุ่น PM 2.5

วันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2563 ที่บริเวณลานหน้าพระราชานุสาวรีย์ฯ โรงพยาบาลลำปาง นพ.ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์ สสจ.ลำปาง เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม รณรงค์ 5 ส. จิตอาสาป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา และรณรงค์รวมพลังป้องกันฝุ่น PM 2.5 ป้องกันฝุ่น เพื่อเป็นการรณรงค์ให้ผู้รับบริการในโรงพยาบาล โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง ได้มีความรู้ความเข้าใจ เกิดความตระหนักถึงอันตราย และสามารถปฏิบัติตัวในการป้องตนเองให้ปลอดภัย

โดย นพ.บรรเจิด นนทสูติ ผอ.โรงพยาบาลลำปาง กล่าวว่า จากการที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้มีนโยบายให้ ผอ.โรงพยาบาลทุกแห่ง จัดกิจกรรมจิตอาสา ทำความดีด้วยหัวใจ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา และดำเนินกิจกรรม 5 ส. จากสถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธ์ใหม่ 2019 และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้ยกระดับศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินเป็นระดับ 3 เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเพิ่มการเฝ้าระวังที่โรงพยาบาลสนับสนุนการเตรียมความพร้อม สำหรับการดำเนินการรับมือโรคติดต่ออุบัติใหม่

โดยครอบคลุมระบบริการสาธารณสุข ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนแหล่งท่องเที่ยว กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดแนวทางให้ทุกระดับตั้งแต่ ประเทศ เขต และจังหวัด มีการติดตามประเมินสถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธ์ใหม่ 2019 ประกอบกับ ในปัจจุบันของจ.ลำปาง ฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาที่สำคัญ ซึ่งในช่วงเดือนธันวาคม-เดือนมีนาคม ของทุกปี จะมีหมอกควันปกคลุมในพื้นที่ สาเหตุหลักเกิดจากไฟป่า และการเผาเศษวัตถุทางการเกษตร
เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศของ จ.ลำปาง ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน ลักษณะเป็นแอ่งกระทะ มีภูเขาล้อมรอบ

ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ค่าฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ จ.ลำปาง อยู่ในระดับที่เกินค่ามาตรฐาน ที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ได้แก่ โรคระบบทางเดินหายใจ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล แสบจมูกและลำคอ ฯลฯ โรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น เหนื่อยง่าย เท้าบวม หัวใจเต้นเร็ว ฯลฯ โรคทางระบบผิวหนัง เช่น อาการคัน มีผื่นแดงตามร่างกาย ฯลฯ โรคระบบทางตา เช่น อาการแสบหรือคันตา ตาแดง น้ำตาไหล และมองภาพไม่ค่อยชัด ฯลฯ

โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคปอด หอบหืด ภูมิแพ้ เป็นต้น เมื่อได้รับสัมผัสฝุ่น PM 2.5 เข้าสู่ร่างกาย จะทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย หรือผลกระทบต่อสุขภาพรุนแรง และมากกว่าประชาชนทั่วไป ดังนั้น ประชาชนจึงจำเป็นที่จะต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และทราบเกี่ยวกับคำแนะนำในการปฏิบัติตน เพื่อป้องกันอันตรายจากฝุ่น PM 2.5

จากสถานการณ์ดังกล่าว กระทรวงสาธารณสุขได้ตระหนัก และห่วงใยการดูแลและป้องกันสุขภาพประชาชนในทุกระดับ จึงได้จัดกิจกรรม รณรงค์ 5 ส. จิตอาสาป้องกัน การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา และ รณรงค์รวมพลังป้องกันฝุ่น PM 2.5 ดังกล่าวขึ้น เพื่อเป็นการรณรงค์ให้ผู้รับบริการในโรงพยาบาล โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง ได้มีความรู้ความเข้าใจ เกิดความตระหนักถึงอันตราย และสามารถปฏิบัติตัวในการป้องตนเองให้ปลอดภัย

ร่วมแสดงความคิดเห็น