ป.ป.ส. จับมือ สธ. ปรับแกนการบำบัดรักษา ขับเคลื่อนโดยใช้จิตวิทยา

วันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2563 นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เป็นประธานเปิดโครงการ “บ้านล้อมรัก” พร้อมด้วย นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) และ นพ.อังกูร ภัทรากร รองผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี ร่วมเป็นวิทยากรขับเคลื่อนเสริมพลังครอบครัวเด็กและเยาวชนที่ติดยาเสพติด ให้มีส่วนร่วมในการดูแลเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมการใช้ยาเสพติด ทั้งที่ยังไม่ได้รับการบำบัด อยู่ระหว่างการบำบัด และหลังการบำบัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยมีครอบครัวทั่วประเทศเข้าร่วมกว่า 44 ครอบครัว ระหว่างวันที่ 30 ม.ค.- 2 ก.พ. 2563 ณ โรงแรมไพน์เฮิร์ส จังหวัดปทุมธานี เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยมีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหายาเสพติดมาโดยตลอด เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายของการเป็นสังคมที่ปลอดภัยจากยาเสพติด ภายใต้แนวคิด “ผู้เสพคือผู้ป่วย” อย่างไรก็ตาม ยังคงพบว่า ปัจจุบันปัญหาการใช้ยาเสพติดทวีความรุนแรงมากขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กและเยาวชนที่พบการใช้ยาเสพติดเพิ่มมากขึ้น จากข้อมูลผู้เข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดของประเทศไทยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า ร้อยละ 40.61 ของผู้เข้ารับการบำบัด มีอายุ 15-24 ปี ซึ่งในเด็กและเยาวชนที่ใช้ยาเสพติด มักอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยง มีปัญหาครอบครัว และขาดความเข้าใจ นอกจากนี้ งานวิจัยพบว่า ครอบครัวที่อบอุ่นจะช่วยป้องกันให้เยาวชนปลอดภัยจากยาเสพติดได้ สำนักงาน ป.ป.ส. จึงร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข จัดโครงการ “บ้านล้อมรัก” ขึ้น ด้วยตระหนักถึงสถาบันครอบครัวที่เป็นส่วนที่ใกล้ชิดที่สุดและเป็นส่วนสำคัญในการดูแลช่วยเหลือผู้ใช้ยาเสพติด ให้สามารถผ่านพ้นวิกฤติของชีวิตและไม่กลับไปใช้ยาเสพติดซ้ำอีก

สำหรับการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวนี้ จุดเน้นคือ เพื่อปรับแกนการบำบัดรักษา โดยหวังให้ครอบครัวได้ใช้จิตวิทยาในการดูแลเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมการใช้ยา มากกว่าการบำบัดหรือการใช้ยารักษา สำนักงาน ป.ป.ส. จึงปรับเรื่องนี้ไปที่กลุ่มเป้าหมายครอบครัวที่มีลูกหลานติดยา โดยให้ครอบครัวได้ดูแลลูกหลานอย่างถูกต้อง ให้ความรู้กับพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือครอบครัวผู้ติดยาเสพติด โดยหวังว่าจะได้ดูแลบุตรหลานด้วยความรักความเข้าใจ และให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องยาเสพติด มีเจตคติและเข้าใจทักษะในการทำหน้าที่ครอบครัว เพื่อลดอัตราการติดยาเสพติดซ้ำ ยอมรับและมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังการติดยาเสพติดในครอบครัวและชุมชนได้ดีมากขึ้น ใช้ความเชื่อมั่นในพลังครอบครัวเป็นส่วนสำคัญในการดูแล ประคับ ประคองผู้ป่วยยาเสพติดให้สามารถลด ละ เลิกยาเสพติดได้ในที่สุด และที่สำคัญคือ ต้องมีความเข้าใจแนวทางในการดูแลและสื่อสารกับบุตรหลานที่ถูกต้อง เพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ครอบครัวจะสามารถหยุดพฤติกรรมการใช้ยาของลูกหลานได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เด็กจะไม่หวนกลับไปมีพฤติกรรมการใช้ยาอีก ดังนั้น ครอบครัวจึงยังต้องไม่หยุดในการให้ความรักความเข้าใจแก่ลูกหลาน เพราะด้วยสภาพแวดล้อมของปัญหายาเสพติดยังคงมีอยู่

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวย้ำว่า ดังนั้น ขอความร่วมมือพ่อแม่ ผู้ปกครอง ช่วยกันสอดส่องดูแลพฤติกรรมของลูกหลานอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งให้อภัยและให้โอกาส ผู้ผ่านการบำบัดรักษายาเสพติด เพื่อให้เขากลับมาเป็นคนดีของสังคมพัฒนาประเทศชาติต่อไป หากพบเห็นความผิดปกติในหมู่บ้าน / ชุมชน หรือบุคคลที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแสยาเสพติด ผ่านสายด่วน ป.ป.ส. โทร 1386 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ขอให้มั่นใจทุกข้อมูลจะถูกปกปิดเป็นความลับ เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน

ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย “สมัครใจบำบัด ไม่เสียประวัติ ไม่มีความผิด”
แจ้งเบาะแสยาเสพติด สายด่วน ป.ป.ส.โทร.1386

ร่วมแสดงความคิดเห็น