Skip to content
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณี “ดราม่า” ที่ทางร้านข้าวซอยกลอยใจชื่อดังที่หมู่บ้านแม่กำปอง แหล่งท่องเที่ยวลือชื่อของ ต.ห้วยแก้ว อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของไวรัสโคโรนา ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ทำให้มีผู้คนติดเชื้อร้ายนี้เป็นจำนวนมาก และได้ลุกลามเข้ามาในประเทศไทย ที่เชียงใหม่ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ทาง “น้องกลอย” วราภัสร์ ทาเปียง วัย 33 ปี เจ้าของร้านข้าวซอยกลอยใจ เกิดความหวาดหวั่นในการแพร่ระบาดของไวรัสชนิดนี้ ประกอบกับแต่ละวันมีลูกค้าทั้งชาวไทย จีน ฝรั่ง เข้ามากินอาหารเป็นจำนวนมาก และไม่ทราบว่าลูกค้าคนไหนติดเชื้อไวรัสนี้มาด้วย ซึ่งช่วงนั้นมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาสั่งกินอาหารในร้าน ทำให้ลูกค้าชาวไทยที่นั่งสั่งกินอาหารได้พากันเดินหนีออกจากร้านไป คงกลัวติดเชื้อจากนักท่องเที่ยวจีน เพื่อเป็นการป้องกันตนเอง และพนักงาน จึงได้ขึ้นป้ายหน้าร้าน ทั้งภาษาจีน อังกฤษ ไทย มีข้อความว่า “ขออภัยไม่รับจีนและลูกค้าต่างชาติ” ได้เพียงไม่กี่วัน ปรากฏว่า มีคนถ่ายภาพนำไปลงโซเชียลมีการคอมเมนต์จำนวนมาก ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ในช่วงเวลาเดียวกันมีไกด์คนจีน มาเป็นป้ายที่เป็นภาษาจีนเป็นคำไม่สุภาพเนื่องจาก “น้องกลอยใจ” ไม่สามารถเข้าใจในภาษาจีน และพูดไม่ได้ ทางไกด์จีนก็เขียนข้อความให้ใหม่
เมื่อวันที่ 1 ก.พ.25693 ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่อำเภอแม่ออน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้เดินทางมาตรวจสอบที่ร้านข้าวซอยกลอย เห็นว่าถ้อยคำภาษาจีนที่มีการนำไป โพสต์ลงโซเชียลนั้น เป็นคำที่ไม่สุภาพ อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศได้ จึงให้มีการแก้ไขป้ายและเปลี่ยนข้อความใหม่โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เขียนป้ายภาษาจีนให้ มีข้อความแปลเป็นไทยว่า “อาหารหมด” เพื่อนักท่องเที่ยวจีนเห็นแล้วจะไม่เข้าร้าน
ทาง “น้องกลอย” กล่าวว่า ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนข้อความภาษาจีนใหม่ว่า “อาหารหมด” ยังอึดอัดใจอยู่ เมื่อนักท่องเที่ยวจีนผ่านมาเห็นคนเต็มร้าน เขาคงแปลกใจทำไมมีป้ายบอกเช่นนี้ เมื่อเขาเข้ามาสั่งอาหาร เราก็ไม่สามารถบอกปฏิเสธพวกเขาได้
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ร้านข้าวซอยกลอยใจเกิด “ดราม่า” ในโลกโซเชียลแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดช่วงเช้าวันที่ 3 ก.พ. 2563 ไปพบว่ามีลูกค้าส่วนมากเป็นคนไทย ได้เข้าไปสั่งอาหารกินกันเต็มทุกโต๊ะ โดยเฉพาะ “ข้าวซอย” ที่มีรสชาติจัดจ้านถูกปากคนไทย
ร่วมแสดงความคิดเห็น