(มีคลิป) สุดงง!! หนุ่มจอดรถริมทาง โดนสาวใหญ่คลั่งทุบรถพังยับ

วันที่ 3 ก.พ. 2563 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ช่วงค่ำคืนของวันที่ 2 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุหญิงคลุ้มคลั่ง ใช้ก่อนหินทุบรถที่จอดริมทางเสียหายหลายคัน บริเวณใกล้กับสถานบันเทิง ร้านกู๊ดวิว ถ.เจริญราษฎร์ ต.วัดเกต อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเมื่อทราบเรื่องได้เดินทางไปตรวจสอบ พบว่าทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในบริเวณดังกล่าว และประชาชนได้ช่วยกันจับกุมตัวหญิงสาวรายหนึ่ง สวมเสื้อแขนยาวลายสก๊อต กางเกงยีนส์ มีลักษณะอาการคล้ายคนเมา คลุ้มคลั่งพูดจาไม่รู้เรื่อง

และจากการสอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า หญิงคนดังกล่วได้เดินมาใช้ก้อนหินโยนใส่กระจกรถยนต์ และทุบรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณดังกล่าวหลายคัน จนได้เข้าไปห้ามก่อนหญิงรายนี้ จะวิ่งหนี และต้องช่วยกันจับกุมไว้ได้ก่อน ที่จะโทรแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้ามาจับกุมตัวไปที่ สภ.แม่ปิง ในเวลาต่อมา

ขณะล่าสุดในตอนนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานไว้ได้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจากเหตุการณ์ภาพในกล้องวงจรปิด ในที่เกิดเหตุที่สามารถบันทึกไว้ได้นั้น พบว่า หยิงคนดังกล่าวได้เดินมาแล้วจู่ ๆ ก็ใช้ก้อนหินขนาดเท้าฝ่ามือปาเข้าใส่กระจกหน้ารถของผู้เสียหาย อีกทั้งยังเดินวนเวียนไปมา ทุบรถที่จอดอยู่บริเวณนั้นหลายคัน รวมทั้งยังได้มีการล้มป้ายหน้าร้านที่อยู่ในระแวกดังกล่าว สร้างความเสียหายก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาห้ามปราม แต่หญิงคนดังกล่าว ก็ยังไม่หยุด และต้องช่วยกันควบคุมตัว เพื่อไม่ให้หญิงรายนี้ก่อเหตุไปมากกว่านี้

โดยจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ทางผู้เสียหายรายหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ ทราบชื่อคือ นายชวการ มังคลานิมิต อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 241/1 ม.1 ต.สันผักหวาน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ของคืนดังกล่าว ตนได้มาเที่ยวที่สถานบันเทิงร้านกู๊ดวิว กับเพื่อน ๆ และได้จอดรถยนต์ของตนไว้ที่บริเวณริมทางย่านวัดเกต ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากร้าน

ต่อมาได้เข้าไปนั่งในร้าน จนกระทั่งทางร้านได้ประกาศว่ารถของตนประสบอุบัติเหตุ จึงได้ออกมาดูโดยระหว่างเดินมาตามทาง ก็มีหญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 40 ปี วิ่งสวนมา และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแจ้งว่า หญิงคนดังกล่าวเป็นคนก่อเหตุ ให้ช่วยจับตัวไว้ ตนจึงรีบวิ่งตาม และดึงตัวหญิงคนดังกล่าว ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะวิ่งมาจับตัวอีกที

โดยทางหญิงคนดังกล่าวก็บอกว่า ไม่ได้หลบหนี และบอกจะชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งตนก็ได้เดินไปดูรถก็พบว่า ได้รับความเสียหายมีกระจกด้านหน้ารถแตกละเอียด ด้านข้างรถมีร่องรอยโดนทุบ รวมทั้งบริเวณด้านหลังคารถ ซึ่งเกิดจากการที่หญิงคนดังกล่าวได้ใช้ก้อนหินปาใส่ อีกทั้งยังได้ใช้ก้อนหินทุบ และนอกจากนี้ยังมีรถที่จอดอยู่บริเวณใกล้เคียงอีก 3-4 คัน ก็ถูกหญิงคนดังกล่าวทุบจนได้รับความเสียหายเช่นกัน

ต่อมาหลังจากที่ตนได้เห็นสภาพรถแล้วนั้น ก็กลับมาพูดคุยกับหญิงคนดังกล่าว พร้อมทั้งได้มีการบันทึกคลิปวีดีโอบางส่วน แต่จากการพูดคุยก็พบว่า หญิงคนดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับคนเสียสติ พูดจาไม่รู้เรื่อง อีกทั้งมีอาการคล้ายกับคนไม่ปกติ เดินวนไปมา บ่นพึมพำ และบอกเพียงว่าจะจ่ายเงินค่าเสียหายให้ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ปิง จะได้คุมตัวหญิงคนดังกล่าวไป เพื่อทำการสอบสวน ซึ่งตนก็ได้ตามไปที่สถานีตำรวจ แต่เมื่อมาถึงก็พบว่าหญิงคนดังกล่าวยังคงมีอาการคลุ้มคลั่งเช่นเดิม อีกทั้งยังอาละวาดในสถานีตำรวจ ทำลายข้าวของ

ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าหญิงคนดังกล่าวเป็นใคร มาจากไหน และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้นภายในกระเป๋าพบเอกสารบัตรประชาชน โทรศัพท์ และทรัพย์สินบางส่วน โดยทราบชื่อคือ น.ส.เพชรัตดา มายูร อายุ 44 ปี มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่จังหวัดกำแพงเพชร นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังทราบว่าหญิงคนดังกล่าว เคยมาเที่ยวที่สถานบันเทิงร้านกู๊ดวิวมาแล้วครั้งหนึ่ง และเคยเกิดเรื่องขึ้นกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในร้าน อีกทั้งยังมีประวัติทำลายข้าวของภายในโรงแรม 2-3 แห่งในเชียงใหม่ ซึ่งตนคาดว่าหญิงรายนี้อาจจะเป็นคนเสียสติ และจากการตรวจสอบก็ทราบว่ามีญาติพี่น้องเพียงคนเดียว คือ พ่อ ซึ่งก็มีอายุมากแล้วอยู่ที่จังหวัดกำแพงเพชร

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ตนก็ได้มีการแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และมีผู้เสียหายอีก 2-3 ราย ก็ได้ไปแจ้งความเช่นกัน แต่ยังไม่ได้ดำเนินคดีกับทางหญิงคนดังกล่าว ซึ่งล่าสุดทราบว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดและแอลกอฮอล์ แต่ทราบว่าไม่มีความผิดปกติ และได้ส่งตัวไปยังโรงพยาบาลสวนปรุง เพื่อทำการตรวจสอบว่ามีอาการป่วยทางจิตจริงหรือไม่

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ตนก็ยังสงสัยว่าหญิงคนดังกล่าวก่อเหตุไปเพื่ออะไร และสอบถามเจ้าตัวก็บอกเพียงว่า “ก็ไม่รู้ว่าทำไปทำไม และควบคุมตัวเองไม่ได้ ก็เลยทุบไป ยังไงจะชดใช้ค่าเสียหายให้” ซึ่งตนก็ยังไม่รู้ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ และยังได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากรถที่เสียหายต้องใช้ทำงานทุกวัน อีกทั้งยังทำให้เสียเวลากับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น