“บังยี” ฝากถึง “ฟีฟ่า” ให้มาดูแลการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ โดยด่วน

ชี้ยังไม่เคยมีหน่วยงานใด หรือบุคคลใดเข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้ง ทั้งที่ไม่มีความโปร่งใส ไร้ความบริสุทธิ์และยุติธรรม เหตุไม่มีคณะกรรมการที่เป็นกลางมาควบคุมการเลือกตั้ง ส่วนกรณีที่การกีฬาแห่งประเทศไทย ปฎิบัติหน้าที่ตามกฏหมาย และอำนาจหน้าที่ ซึ่งซึ่ง “ฟีฟ่า” ไม่สามารถจะเข้ามาแทรกแซงการปฎิบัติตามกฏหมายในจุดนี้ได้ เปรีบเหมือน “ฟีฟ่า” ก็ต้องก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศสวิตเซอร์แลนด์

“บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวว่า สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ “ฟีฟ่า” ได้ออกมาขู่ เรื่องไม่ยอมให้มีการแทรกแซงในการเลือกตั้งของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 12 ก.พ. 63 ซึ่งเรื่องนี้ตามข้อเท็จจริงก็ยังไม่มีหน่วยงานหรือบุคคลใดเข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้ง ทั้ง ๆ ที่การจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในเรื่องของความไม่โปร่งใส ความไม่เป็นธรรม เพราะไม่ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งที่เป็นกลาง มาควบคุมการเลือกตั้งในครั้งนี้ จึงทำให้มีการร้องเรียนกันอย่างมากมาย เพื่อขอความเป็นธรรมต่อองค์กรที่รับผิดชอบควบคุมสมาคมกีฬา คือ การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ซึ่งก็ทำหน้าที่ตาม อำนาจหน้าที่และตามกฏหมายที่กำหนดไว้ และไม่ได้เข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้งแต่ประการใด ซึ่งเรื่องนี้ฟีฟ่าเองอาจจะไม่ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง จากสมาคมฟุตบอลที่ได้รายงานให้ทราบ

นายวรวีร์ กล่าวต่อไปว่า การที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย ปฎิบัติหน้าที่ตามกฏหมาย พระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย ต่อข้อร้องเรียนต่าง ๆ ก็เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ ซึ่ง “ฟีฟ่า” เองก็ไม่สามารถจะเข้ามาแทรกแซงการปฎิบัติตามกฏหมายเหล่านี้ได้ เพราะเป็นกฎหมาย ที่ใช้บังคับของประเทศนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น “ฟีฟ่า” ตั้งอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กฏข้อบังคับหรือธรรมนูญของ “ฟีฟ่า” ไม่อาจจะไปขัดต่อกฏหมายของประเทศได้

นอกจากนี้ นายวรวีร์ กล่าวอีกว่า “ผมอยากให้ ฟีฟ่า ช่วยตรวจสอบการซื้อเสียง ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ตามที่ผมได้ร้องเรียนไป มีการอ้างถึงว่าได้สัญญาว่าจะให้เงินตั้งแต่ก่อนจะมีการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว แต่ก็เพิ่งจะนำเงินมาแจกจ่ายก่อนเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งการกระทำลักษณะนี้เข้าข่ายผิดกฎจริยธรรมของฟีฟ่า มาตรา 27 ที่ว่าด้วยเรื่องการติดสินบนและการคอรัปชั่น เรื่องนี้เป็นเรื่องความโปร่งใสและธรรมาภิบาลขององค์กร ซึ่งฟีฟ่า ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ และร้ายแรงมาก ถ้ามีการละเมิดกฎจริยธรรมดังกล่าว”

“ผมฝากถึงฟีฟ่าให้ดูเรื่องนี้โดยด่วน เพื่อการเลือกตั้งสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะได้เป็นการเลือกตั้ง ที่สะอาดบริสุทธิ์ ได้บุคคลที่เป็นที่ยอมรับของสังคมเข้ามาบริหารสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ต่อไป” นายวรวีร์ กล่าวเสริมในตอนท้าย

ร่วมแสดงความคิดเห็น