จ.เชียงราย เปิดคลีนิกมลพิษ สธ.จัดแผนรับมือปัญหาหมอกควันเต็มรูปแบบ

วันที่ 20 ก.พ. 2563 ที่อาคารคลินิกหมอครอบครัว ศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายแพทย์ไชยเวช ธนไพศาล ผอ.โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ทีมแพทย์และพยาบาล ได้ร่วมกันทำพิธีเปิดคลีนิกมลพิษขึ้น ซึ่งเป็นเป็นคลีนิกเฉพาะทางที่เน้นการทำงานด้านเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม โดยติดตามภาวะสุขภาพของประชาชนที่ต้องสัมผัสพิษเรื้อรัง เน้นการสื่อสาร สร้างความรอบรู้ ทั้งนี้เพื่อรองรับผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากปัยหาด้านมลพิษโดยเฉพาะปัญหาปัยหาวิกฤติหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก ซึ่งมีแนวดน้มที่จะรุนแรงในห้วงเดือนมีนาคม-เมษายน ที่จะถึงนี้

นายแพทย์ไชยเวช กล่าวว่า คลินิกแห่งนี้นอกจากจะมีการจัดทีมแพทย์และพยาบาลไว้คอยรักษาผู้ป่วย ที่ได้รับการคัดกรองมาจากโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการสะสมของควันและฝุ่นในอากาศไม่ว่าจะเป็นการเกิดไฟป่า การเศษวัสดุทางการเกษตร รวมถึงการใช้เชื้อเพลิงจากภาคการคมนาคมและอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นการรักษาที่ตรงจุดตรงกลุ่มเป้าหมายและเป็น ระบายผู้ป่วยจากการรักษาโรคทั่วไปของโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ มีนิทรรศกาลให้ความรู้และการป้องกันจากปัญหาฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นทั้งการใชหน้ากากอนามัยหรือการใช้เจลหรือแอลกอฮอล์ล้างมือ รวมไปถึงการใช้เครื่องฟอกอากาศเพื่อลดความเสี่ยงอีกด้วย

ด้านนายทศเทพ กล่าวว่า ปัจจุบันแม้มาตรการของจังหวัดจะได้ผลโดยไม่มีการเผาไหม้ในพื้นที่ แต่พื้นที่ก็เริ่มได้รับกระทบจากสภาพอากาศซึ่งเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ทั้งอากาศแปรปวนและความกดอกาศสูง ทำให้หมอกควันลมาต่ำจนทำให้ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่กิน 2.5 ไมครอน เกินมาตรฐานที่ 50 ไมโครกรรัมต่อลูกบาศก์เมตร ติดต่อกันมา 4 วันแล้ว ทางสาธาณสุขจึงเฝ้าระวังด้านสุขภาพ โดยให้คำแนะนำให้ประชาชนตระหนักในการดูแลตนเอง ติดตามค่าฝุ่นละอองหากมีระดับสูงไม่ควรออกกลางแจ้ง สวมหน้ากากอนามัย หรือหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายควรอยู่แต่ในบ้าน อย่างไรก็ตามยังเป้นช่วงการเฝ้าระวังยังไม่พบผู้ป่วยที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นจนผิดปกติ

“นอกจากนี้ทางสาธาณสุขยังได้จัดเตรียมหน้ากากอนามัยไว้แจกจ่ายให้กับกลุ่มเสี่ยง 5 กลุ่มคือผู้สูงอายุ เด็กเล็กต่ำวก่า 5 ปี สตรีมีครรถ์ คนที่มีโรคประจำตัวเบาหวานความดัน และผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง ซึ่งมีอยู่กว่า 200,000 คน การจัดตั้งคลีนิกมลพิษเป็นอีกส่วนในมารตรการรับมือให้คำแนะนำรักษาผู้ป่วยและจัดบริการพื้นที่สะอาดหรือเซฟตี้โซน โดยจัดขึ้นทุกโรงพยาบาลชุมชนกว่า 200 แห่ง รองรับประชาชนได้ประมาณ 20,000 คน ในอนาคตมีแผนจะบขยายไปครอบคลุมถึง อบต. ศูนยเด็กเล็ก โรงเรียน สถานที่ราชการ ตลอดจนห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ประจำจังหวัดด้วย” นายทศเทพ กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น