กรมอนามัย ปลื้มครึ่งทาง “ก้าวท้าใจ” ยอดเดิน-วิ่งสะสม ระยะทางกว่า 11 ล้านกิโลเมตร

​กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผย โครงการก้าว…ท้าใจ เดิน – วิ่งสะสม 60 วัน 60 กิโลเมตร มีบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข อสม. และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 400,000 คน รวมระยะทางกว่า 11,000,000 กิโลเมตร พร้อมสนับสนุนให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง สร้างเกราะป้องกันโรค
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า “โครงการก้าว…ท้าใจ” เป็นกิจกรรมหนึ่งที่กระทรวงสาธารณสุขจัดขึ้น จากนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (ดร.สาธิต ปิตุเตชะ) ที่ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมให้บุคลากรกระทรวงสาธารณสุข อาสามัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และประชาชนทั่วไป ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพด้วยการสะสมระยะทางเดิน – วิ่ง ที่สามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยมีบันทึกการสะสมการออกกำลังกายในแอปพลิเคชั่น Line พร้อมประเมินดัชนีมวลกาย (BMI) ที่เริ่มบันทึกสะสมระยะทางตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 31 มีนาคม 2563 เป้าหมายเริ่มต้นที่ 60 วัน ระยะทาง 60 กิโลเมตร

ซึ่งขณะนี้ผ่านมาได้ครึ่งทางของการเดิน – วิ่งสะสมระยะทางแล้ว หรือ 30 วัน นับจากวันเปิดกิจกรรมฯ โดยมีจำนวนผู้สมัครทั้งหมด 425,042 คน รวมระยะทาง 11,160,929 กิโลเมตร การวิ่งเป็นประจำจะช่วยกระตุ้นการทำงานระบบไหลเวียนโลหิต ฝึกการใช้งานกล้ามเนื้อ ทำให้มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้น เผาผลาญไขมัน และ ลดระดับคอเลสเตอรอล รวมทั้งการวิ่งที่เหมาะสมต่อร่างกาย จะช่วยลดปัญหาข้อต่อเสื่อม ลดอาการปวดข้อและป้องกันการเกิดข้อติด การวิ่งเพื่อสุขภาพจะต้องทำเป็นประจำสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที ไม่หักโหมหรือเหนื่อยมากจนเกินไป โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือน้ำหนักตัวมาก อาจปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม และกินอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำสะอาด และพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้มีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน
​“สำหรับในช่วงนี้ที่มีการระบาดของโรคไวรัสโคโรนา (COVID-19) การออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง สามารถสร้างเกราะป้องกันโรคและความเจ็บป่วยได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ ควรหมั่นดูแลสุขภาพของตนเอง และล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำสบู่หรือเจลล้างมือ แอกอฮอล์เป็นประจำ รวมถึงหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในที่ที่มีคนแออัด แต่ถ้าจำเป็นต้องไปควรป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าทุกครั้ง ก่อนไปในที่ที่อาจเป็นจุดเสี่ยง” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น