วันที่ 5 มี.ค. 2563 ทางเพจเชียงใหม่นิวส์ ได้รับแจ้งจากสมาชิกเพจ รายงานว่า จากกรณีที่โลกโซเชียลได้ตื่นตระหนกถึงเรื่องราวที่หญิงสาวรายหนึ่งโพสต์ภาพ และข้อความหลังเดินทางกลับมาจากเมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ และไม่ได้กักกันโรค 14 วัน ตามมาตรการบังคับเฝ้าระวังการแพร่เชื้อไวรัส โควิด -19 พร้อมทั้งมีการโพสต์ไปดื่มสุราในผับแห่งหนึ่ง แคปชั่นว่า “ฆ่าโคโรน่าหน่อย” จนทำให้ในเวลาต่อมา มีการแชร์ภาพดังกล่าวออกไปจนถูกวิพากษ์ วิจารณ์ และกลายเป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานที่ดังกล่าวที่อาจส่งผลต่อการแพร่ระบาดของเชื้อ โดยเฉพาะสถานบันเทิงดังกล่าวที่หญิงสาวได้ไปเที่ยว เนื่องจากเป็นพื้นที่แออัดและมีคนชุมนุมเยอะ
ขณะที่ล่าสุด ทางสถานบันเทิงแห่งนี้ได้ทำความสะอาดครั้งใหญ่ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัส หลังจากที่ได้มีการทราบข้อมูลดังกล่าวที่เกิดขึ้นโดยได้มีโพสต์ภาพและข้อความระบุว่า
“จากกระแสที่มีผีน้อยมาใช้บริการที่ร้าน Take it Club ในเครือ Cmi ดังนั้น ทางร้านได้มีการติดต่อประสานงานเจ้าหน้าที่ มาพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ และทำความสะอาดร้านครั้งใหญ่ โดยการเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ ทุกจุด เพื่อให้ลูกค้าได้มั่นใจและปลอดภัย ในการใช้บริการของทางร้านครับผม ท้ายนี้หวังอย่างยิ่งว่า ทางลูกค้าจะยังมั่นใจ และไว้วางใจใช้บริการทางร้านเช่นเคยด้วยดีครับผม” ตามที่ปรากฎในโซเชียลแล้วนั้น
ทั้งนี้ทางผู้สื่อข่าว ได้ทำการติดต่อสอบถามไปยังทางด้าน นายวรุฒ บุณยะอนันต์ อายุ 54 ปี ผู้ช่วยผู้บริหารร้าน take it club เชียงใหม่ เกี่ยวกับมาตรการในการดำเนินการป้องกันและแก้ไข หลังจากที่ทางร้านได้มีหญิงคนดังกล่าวเข้าใช้บริการตามที่ปรากฎไปในโซเชียล ซึ่งได้เปิดเผยว่า “จากกรณีที่ได้มีลูกค้าเป็นหญิงสาวรายหนึ่งเดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลี แล้วมาใช้บริการที่ร้าน และเมื่อมีกระแสข่าวถูกเผยแพร่ออกมาในโซเชียลจนต่อมาทางร้านได้ทราบข้อมูลแล้วนั้น ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยในวันนี้ทางร้านได้มีการดำเนินการทำความสะอาดครั้งใหญ่ ด้วยการว่าจ้างบริษัท ADVANCE GROUP ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับน้ำยาฆ่าเชื้อ เข้ามาดำเนินการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้ออย่างละเอียดทุกซอกทุกมุมของร้าน พร้อมทั้งทางร้านยังได้ระดมพนักงานและแม่บ้านจำนวน 10 กว่าคน มาช่วยทำความสะอาดอุปกรณ์ภายในร้านทุกอย่างด้วยแอลกอฮอล์และนำยาฆ่าเชื้อเพื่อเป็นการป้องกันการเกิดเชื้อไวรัส
อย่างไรก็ตามภายหลังจากการเกิดกระแสข่าวดังกล่าวเกิดขึ้น ทางร้านยอมรับว่าได้รับผลกระทบอยู่บ้างทั้งในส่วนของกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงมาตรการป้องกัน แต่บางรายก็ได้เข้ามาให้กำลังใจ เนื่องจากทางร้านก็ไม่ทราบว่าจะมีผู้เข้าใช้บริการที่เดินทางมาจากประเทศสุ่มเสี่ยง อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทางร้านก็จะมีการเพิ่มมาตรการในการตรวจสอบผู้เข้าใช้บริการด้วยการใช้เครื่องตรวจวัด และหากพบว่าเข้าข่ายสุ่มเสี่ยงก็จะต้องขอความร่วมมือไม่ให้เข้าพื้นที่ร้าน เพื่อเป็นการป้องกันอีกมาตรการหนึ่ง รวมไปถึงการดำเนินการทำความสะอาดของร้าน เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการอีกทางหนึ่ง และอยากฝากถึงทางภาครัฐในการเพิ่มมาตรการเข้มข้นในการคัดกรองและการดูแลผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนอีกทางหนึ่งด้วย
ร่วมแสดงความคิดเห็น