“เชียงใหม่” ขึ้นแท่นคุณภาพอากาศแย่ อันดับ 1 ของโลก เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ระดมกำลังเร่งแก้ปัญหาไฟป่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แอปพลิเคชัน AirVisual ได้รายงานสภาพคุณภาพอากาศ วันนี้ (10 มีนาคม 2563) เวลา 10.17 น. พบว่าจังหวัดเชียงใหม่ มีคุณภาพอากาศแย่ เป็นอันดับ 1 ของโลก โดยอยู่ในระดับเกินค่ามาตรฐาน วัดได้ที่ 197 US AQI แซงหน้าโกลกาตา ประเทศอินเดีย ที่สามารถวัดค่าได้ที่ 194 US AQI ตามด้วยประเทศ ปากีสถาน และเดลี มุมไบ ของอินเดีย ตามลำดับ
ขณะที่ทุกภาคส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ยังคงตรึงกำลังเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ใน 4 อำเภอ ภายใต้ปฏิบัติการ “Set Zero” หลังเกิดไฟบนเขาสูง และลุกลามอย่างรวดเร็ว
นายสุเจตน์ มงคลไชยสิทธิ์ ผอ.ส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า เสือไฟ ของกรมอุทยานฯ ชุดเฉพาะกิจดับไฟป่า (หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.5 ปิงโค้ง) หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติศีลานนา ที่ ศล.2 (ปางมะเยา) สนธิกำลังกับชุดเหยี่ยวไฟ กรมป่าไม้ และกำลังทหาร เข้าไปดับไฟในพื้นที่บ้านม่วงฆ้อง ตำบลเชียงดาว และบ้านห้วยตะเคียน ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว โดยใช้โดรนขึ้นบินสำรวจจุดความร้อนที่เกิดจากการเผา เพื่อแจ้งพิกัดให้เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินเข้าไปดับไฟได้ถูกต้อง
ด้าน นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวภายหลังเปิดปฏิบัติการ “Set Zero” ซึ่งเป็นการระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วน สนธิกำลังเข้าดับไฟป่าในพื้นที่ที่เกิดซ้ำซาก ได้แก่ อำเภอเชียงดาว ไชยปราการ แม่แตง และพร้าว โดยจากการปฏิบัติงานที่ผ่านมา มีอุปสรรคทั้งสภาพภูมิประเทศ ส่วนใหญ่ที่เกิดไฟจะอยู่บนพื้นที่ภูเขาสูง ลาดชัน ยากต่อการเข้าถึง โดยหน่วยดับไฟภาคพื้นดิน ต้องใช้การเดินทางเท้าเข้าพื้นที่จุดเกิดเหตุ และจุดที่เกิดไฟเกือบทั้งหมดอยู่ในเขตป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ สภาพป่าแห้งแล้ง มีเศษกิ่งไม้ ใบไม้แห้งทับถมกันจำนวนมาก จึงกลายมาเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีที่ทำให้ติดไฟง่าย และลุกลามอย่างรวดเร็ว ซึ่งการควบคุมไฟได้เป็นไปด้วยความยากลำบาก
ทั้งนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องตรวจเช็ค จนกว่าจะดับสนิทจริง ๆ ถึงจะถอนกำลังได้ และให้เตรียมเสบียงอาหาร น้ำดื่ม เพื่อตรึงกำลังค้างแรมอยู่ภายในป่า ตลอดจน ต้องนำกำลังลาดตระเวนเพื่อป้องกันการลักรอบเผาป่าในเวลากลางคืน ขณะเดียวกัน หากประเมินสถานการณ์แล้ว มีพื้นที่ใดต้องการขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์บินมาทิ้งน้ำช่วยดับไฟ หากพื้นที่นั้นเข้าถึงลำบาก โดยเป็นกำลังใจให้แก่ทุกภาคส่วน ที่เข้าดับไฟป่าในพื้นที่ หากพื้นที่ใดมีกำลังไม่เพียงพอ สามารถขอกำลังพลเข้าไปสนับสนุนเพิ่มเติมได้ พร้อมตั้งเป้าดับสนิทภายในวันที่ 10 มีนาคม นี้

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น