ต้องทนอีกนาน! วิกฤติหมอกควันสุมเมือง เร่งดึงชุมชนเฝ้าระวังไล่ล่าคนเผาป่า

เครือข่ายสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่ กล่าวว่ามาตรการแก้ไขปัญหาหมอกควันในพื้นที่เฝ้าระวัง โดยเฉพาะภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด ไม่ว่าจะเป็น เชียงใหม่, เชียงราย, ลำปาง และแม่ฮ่องสอน แม้จะมีการถอดบทเรียน ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ร่วมมือกับวาระแก้ปัญหานี้ ที่ถูกยกระดับเป็นวาระแห่งชาติไปแล้ว
“ตราบใดที่ต้นตอของการเกิดไฟป่า ที่มาจากคนทั้งสิ้น และการแจงโทษการเผาหญ้า-ขยะ เป็นความผิดอาญา มีโทษตั้งแต่จำคุก 1 เดือน ถึง 7 ปี หรือสั่งปรับได้ตั้งแต่ 2,000-14,000 บาท อ้างอิง พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 217-218 แล้วแต่กรณี อัตราโทษจำคุกขั้นสูงถึงประหารชีวิต ก็ยังไม่มีความหวาดกลัว หรือตระหนักรับรู้ความรับผิดชอบร่วมกัน ต่อสังคมถึงมหันตภัยในการเผา จนเกิดหมอกควันสุมเมืองทุก ๆ ปีมานาน”
ผู้นำชุมชนบ้านโปง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า การดึงมวลชน และให้ชุมชน มีส่วนร่วมเฝ้าระวัง ดูแลการเผาในพื้นที่ หากเป็นบริเวณหมู่บ้าน ที่มีวิถีความเป็นอยู่แบบเกษตรกรรม ค่อนข้างจะได้รับความร่วมมือน้อย เพราะยังคุ้นเคยกับการเผาขยะ เผาวัชพืช แม้จะมีการแจ้งท้องถิ่น มีมาตรการบังคับใช้กฎหมายในการจับปรับก็ยังไม่ใช่แนวทางที่ดีที่สุด เนื่องจากคนนี้หยุด ก็มีคนอื่นทำ วนเวียนกันแบบนี้
ด้านเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในหมวดการทาง พื้นที่ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า การเผาข้างทาง เป็นภาระที่เริ่มจะเกินศักยภาพหลาย ๆ พื้นที่ เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิง หญ้าแห้ง วัชพืช ที่เกิดไฟเผาผลาญ แตกต่างกัน จุดที่เกิดไฟเป็นวงกว้าง จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหลาย ๆ หน่วยงาน ทั้ง อปท., หมวดการทาง, ปกครอง, ท้องที่ และทหาร เข้าไปช่วยกันสกัดดับไฟ
การจะแก้ปัญหา ไฟที่เกิดขึ้นตามแนวเขตทางนั้น ต้องให้ชุมชนเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะชาวบ้านในชุมชน หมู่บ้านตามเขตทางจะรู้ดีว่า ใครเข้าไปหาของป่าเป็นประจำ ต้องให้ผู้นำชุมชน ประชาคมหมู่บ้าน เข้าไปทำความเข้าใจถึงปัญหาการเผา จะโดยตั้งใจหรือ ประมาทเลินเล่อ จนควบคุมไฟลุกลามไม่ได้ก็ตาม และควรดึงงบจัดการไฟป่า ในรูปแบบการมีส่วนร่วม ให้ชุมชนบริหารจัดการ ควบคุมพื้นที่ตามแนวเขตทาง พื้นที่ป่าทุกแห่ง กลุ่มคนมีอาชีพหาของป่าในชุมชน ต้องให้กลุ่มคนเหล่านี้ สามารถใช้ชีวิตปกติได้หากไม่ให้เข้าไปในป่าหาของป่า อาจจะเป็นรูปแบบโครงการ สร้างงาน สร้างอาชีพ ช่วงแล้ง ช่วงฤดูกาลที่มักจะเกิดไฟป่าบ่อย ๆ
ทั้งนี้ชาวบ้านในพื้นที่ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เห็นด้วยกับแนวทางที่จะห้ามคนเข้าป่า หาของป่า และดึงงบเรื่องไฟป่า ในเขตทางให้ชุมชน ดำเนินการตามเหมาะสม การจัดการแบบที่ผ่านมา น่าจะพบข้อบกพร่อง และวิกฤติปัญหาที่ประชาชนต้องอดทนกับหมอกควัน จนมีผลต่อสุขภาพแบบนี้มานานทุก ๆ ปี ทั้ง ๆ ที่รู้ต้นตอปัญหาว่า ไฟที่ไหม้ผืนป่านั้นมาจากคนก่อขึ้นทั้งสิ้น การใช้มาตรการทางกฎหมายที่เด็ดขาด ต้องดำเนินควบคู่ไปกับรูปแบบอื่น ๆ บางคนไม่กลัวถูกจับ แต่กลัวอดมากกว่าก็มี ที่สำคัญ หมอกควันที่เกิดขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการเผาในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น