แตกตื่นกันใหญ่ ถ้าไทยเข้าระยะ3 กลุ่ม รพ.ต้องใช้หน้ากากวันละ 7 แสนชิ้น

เครือข่ายสาธารณสุขภาคเหนือ (เชียงใหม่) แสดงความคิดเห็นกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีระกุล รองนายกรัฐมนตรีและในฐานะรมว.สาธารณสุข ได้ทวิตข้อความวันนี้ว่า “รู้หรือไม่ สาสุข (สาธารณสุข) ก็เป็นผู้ซื้อเหมือนทุกคน ไม่ใช่ผู้ผลิตแต่ก่อนนี้เขาขายให้วันละ 1.7 แสน เดี๋ยวนี้ เขาขายให้วันละ 4 แสนชิ้น ที่จะหนักคือ ถ้าเข้าเฟสระบาดในประเทศ รพ.ต้องใช้ วันละ 7 แสนสั่งองค์การเภสัชฯ ไปหาทางตั้งโรงงานผลิตเองแล้วครับ”
ทั้งนี้ เจตนาของการสื่อสารนั้น อาจนำเสนอในแง่มุมเตรียมความพร้อม หากไทยเข้าสู่การแพร่ระบาดในระยะต่อไป ซึ่งโดยวงจรของโรคอุบัติใหม่นั้นระยะพีคสุดคือระยะสุดท้ายเกิดขึ้นอยู่แล้ว ซึ่งไทยอยู่ในระยะ2 และพยายามประวิงเวลาการเข้าสู่ระยะ 3 ให้มีความพร้อมรับมือมากที่สุด ซึ่งหน่วยงานสาธารณสุขและหลาย ๆ ภาคส่วนของไทยทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ “แต่บางมุมอาจมองว่า จะส่งผลต่อความแตกตื่น ในการกักตุนหน้ากากอนามัย ดันราคาให้สูงขึ้นไปอีก รวมถึงการผลิตในขณะนี้ยังไม่เพียงพอ”
นอกจากนั้นข้อความที่ทวิตออกมาอีกคือ “ปาร์ตี้ มหาภัยตั้งวงเหล้าแก้วเดียวกัน สูบบุหรี่มวนเดียวกัน สารคัดหลั่งในน้ำลาย ทำให้ติดเชื้อ covid-19 ทั้งวง 11 คนถ้าเชื่อและปฏิบัติตาม สธ. แนะนำจะไม่เป็นเช่นนี้ 1. อย่ากิน ดื่ม ด้วยการใช้ภาชนะร่วมกัน2. ต้องกักตัวเอง เมื่อมีความเสี่ยง 3. อย่าออกจากบ้านพบปะผู้อื่น เมื่อป่วยไข้ ” ผลที่ตามมาคือ วงการร้านอาหารสถานบันเทิง กลายเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยโดยอัติโนมัติ
ทีมข่าวสอบถามความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พบว่า การนำเสนอข้อมูลข่าวสาร จากระดับนโยบาย คงมุ่งเป้าที่การสื่อสารให้ประชาชนคนไทยทุกคน ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ตื่นตัว หาความรู้ เพื่อ ป้องกันไวรัสโควิด 19 มากกว่า
อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่มารอรับการรักษาพยาบาล ในสถานพยาบาล หลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เห็นใจบุคคลากรทางการแพทย์มากที่สุด ยิ่งมีปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัยด้วย ยิ่งน่าเป็นห่วง เพราะเป็นกลุ่มแรกๆที่ต้องพบเจอ สัมผัสกับผู้ป่วยสารพัดโรคที่เข้ามารับบริการ ภาครัฐควรเร่งจัดหน้าอุปกรณ์ด้านการแพทย์ สาธารณสุขเพื่อป้องกันโรคนี้
ให้เพียงพอ
หากจะมีการจัดตั้งโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยเองก็เป็นเรื่องที่ดี องค์การเภสัชกรรม ควรจะมีการจัดตั้งโรงงานในส่วนนี้ตั้งนานแล้ว เนื่องจากความจำเป็นของประชาชน จากภาวะคุณภาพ อากาศ ปัญหาหมอกควัน ถ้าเพิ่มโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยที่มีมาตรฐานทางการแพทย์ออกมา น่าจะเป็นการช่วยกลุ่มเสี่ยงที่มีปัญหาโรคทางระบบทางเดินหายใจ มีทางเลือก มีอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันดูแลสุขภาพในราคาย่อมเยาว์ เพราะปัจจุบันราคาหน้ากากอนามัยแพงกว่ายุคสมัยใดไปแล้ว

ร่วมแสดงความคิดเห็น