(มีคลิป) หนุ่มเต็นท์รถเตือนภัย มิจฉาชีพทำทีมาติดต่อซื้อรถ แต่พยายามเปิดประตูรถที่จอดติดเครื่องไว้ ก่อนหลบหนี

วันที่ 14 มี.ค. 63 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่บนโลกโซเชียล ได้มีบุคคลใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า “Gym Tanakorn” ซึ่งได้โพสต์คลิปวีดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บริเวณหน้าร้านของตัวเอง ซึ่งเป็นเต็นท์รถมือสอง แห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่มีชายคนหนึ่งอายุประมาณ 45-50 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ดรีม สีแดง ตามรถฟอร์จูนเนอร์ สีขาว แล้วได้จอดรถหน้าร้าน จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ทำทีมาติดต่อซื้อรถกับทางร้าน แต่มีพฤติกรรมน่าสงสัยว่าจะเป็นมิจฉาชีพ หรือคนร้ายก่อเหตุขโมยรถ เนื่องจากชายคนดังกล่าว ได้มีการแสดงท่าทางพิรุธ และได้อาศัยจังหวะที่ทางเจ้าของรถฟอร์จูนเนอร์ สีขาว จอดรถลงไปซื้อของถนนฝั่งตรงข้าม และเมื่อชายคนดังกล่าวเห็นว่ารถได้จอดติดเครื่องยนต์ไว้ ก็เข้าไปดึงประตูรถ โดยที่ไม่ได้เป็นเจ้าของรถแต่อย่างใด ก่อนที่ผู้โพสต์จะเห็นพฤติกรรมดังกล่าว แล้วเข้ามาพูดจาจนชายคนนี้เห็นสถานการณ์ไม่ดี จึงรีบขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดติดเครื่องทิ้งไว้ขับหลบหนีไป ซึ่งต่อมาทางเจ้าของโพสต์จึงได้นำคลิปจากกล้องวงจรปิดในร้าน ที่สามารถบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ได้ นำมาเผยแพร่ลงในโซเชียล พร้อมทั้งระบุข้อความว่า “เตือนภัยสังคมครับ บุคคลในคลิปวีดีโอมีท่าทางพิรุธ แกล้งมาดูรถที่ร้าน แต่ผมมองว่าเขาน่าจะตามรถฟอร์จูนเนอร์สีขาว ที่เป็นผู้หญิงขับ แล้วเขาสตาร์ทรถทิ้งไว้ มีลูกเล็กอยู่ในรถด้วย ดีที่ล็อคประตู สังเกตคนในวีดีโอดี ๆ เขาจ้องแต่รถฟอร์จูนเนอร์ แล้วยังเดินไปเปิดประตูรถฮอนด้า แจ๊ส อีกคัน จักรยานยนต์ก็ไม่ดับเครื่อง พบเจอที่ไหนระวังด้วยนะครับอันตรายจริง ๆ #เจอผมเดินเข้าไปคุย หนีเลยพูดแบบงง” และเมื่อเรื่องราวเหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ออกไปแล้ว ก็ทำให้มีผู้พบเห็นเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์และแชร์เรื่องราวออกไปเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ในเวลาต่อมา ทางผู้สื่อข่าวได้ทำการติดต่อไปหาทางเจ้าของโพสต์เรื่องราวนี้ จนกระทั่งทราบว่า เจ้าของโพสต์ดังกล่าว คือ นายธนกร ตันธนะ อายุ 29 ปี เจ้าของเตนท์รถที่ปรากฎในคลิป ซึ่งเจ้าตัวเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ช่วงบ่ายวานนี้ (13 มี.ค. 63) เวลาประมาณ 14.50 น. ซึ่งมีลูกค้าเป็นชายอายุประมาณเกือบ 50 ปี สูงประมาณ 165 เซนติเมตร ได้จอดรถจักรยานยนต์ และทำทีเข้ามาดูรถในร้าน แต่จากการพูดคุยกับทางแฟนของตนนั้น พบว่าชายคนนี้พูดจาในลักษณะที่ไม่ทราบข้อมูลของรถแต่อย่างใด ตนจึงรู้สึกผิดสังเกตจึงเข้าไปพูดคุยด้วย และก็ได้มาเห็นพฤติกรรมผิดสังเกต เมื่อชายคนดังกล่าวเดินไปเปิดประตูรถที่จอดอยู่หน้าร้าน และได้กลับมาย้อนดูคลิปจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพไว้ และคาดว่าชายคนนี้น่าจะเป็นมิจฉาชีพที่ตั้งใจจะก่อเหตุขโมยรถ จึงได้นำภาพเหตุการณ์ที่ปรากฏดังกล่าวไปโพสต์ในโซเชียล
สำหรับพฤติกรรมที่ตนคิดว่าชายคนนี้ น่าจะเป็นมิจฉาชีพ คือ ชายคนดังกล่าวเดินเข้ามาเหมือนลูกค้าปกติและได้มีการพูดคุย พร้อมทั้งมีการให้เบอร์โทรศัพท์มา โดยบอกกับแฟนของตนว่า คนในเบอร์โทรศัพท์อยากได้รถ แล้วแฟนก็ได้มาบอกกับตนให้โทรศัพท์คุยกับลูกค้า ตามเบอร์โทรที่ชายคนดังกล่าวให้มา แต่ขณะนั้นตนได้ไปสังเกตเห็นว่าชายคนดังกล่าว กำลังพยายามเปิดประตูรถฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ที่จอดหน้าร้านอยู่ จากนั้นตนจึงได้เดินเข้าไปหาชายคนดังกล่าว ซึ่งทำให้ชายคนดังกล่าวหยุดพฤติกรรม แล้วมาพูดคุยกับตน โดยต นก็ถามข้อมูลกับชายคนนี้ว่าใครจะซื้อรถ พร้อมทั้งถามไปว่าเบอร์โทรศัพท์ที่ให้มาดังกล่าวเป็นเบอร์ของใคร แต่ชายคนดังกล่าวก็มีอาการหน้าถอดสี และมีท่าทางกลัว ตนจึงถามกลับไปอีกครั้ง ซึ่งชายคนดังกล่าวก็ตอบกลับว่าเบอร์ดังกล่าวเป็นของพี่ชาย พี่ชายอยากได้รถ แต่ตนก็ถามไปว่าทำไมพี่ชายไม่มาเอง ซึ่งชายคนนี้ก็ยังบอกอีกว่าเดี๋ยวจะมาจองรถไว้ก่อน แต่หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวก็เริ่มมีอาการลุกลี้ลุกลน แล้วเดินหันหลังไปดึงประตูรถฮอนด้าแจ๊ส สีขาวที่จอดอยู่อีกคัน แต่เมื่อเห็นว่าเปิดไม่ได้ จึงรีบขึ้นควบรถจักรยานยนต์ที่จอดติดเครื่องไว้ แล้วขับออกไปทันที
โดยในเวลาต่อมาตนเห็นว่าชายคนนี้มีพิรุธ จึงได้กลับมาตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ในร้าน และก็เป็นอย่างที่ตนคิดไว้จริง และคาดว่าชายคนนี้ น่าจะขับตามรถเฟอร์จูนเนอร์ สีขาว มาก่อนแล้ว จนกระทั่งมาถึงหน้าร้านตน โดยระหว่างที่เจ้าของรถจอดรถไว้ก็ได้มีการติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ โดยมีเด็กอายุประมาณ 5-6 ขวบอยู่ข้างใน และคาดว่าชายคนดังกล่าว เห็นว่าสบโอกาสจึงตั้งใจจะก่อเหตุ แต่ประตูรถปิดล็อคเปิดไม่ได้ จึงทำให้ชายคนนี้ก่อเหตุไม่สำเร็จ ส่วนที่ตนนำคลิปดังกล่าวมาโพสต์ ก็เพื่อเป็นการเตือนภัยสังคม และภัยใกล้ตัวที่ปัจจุบันมิจฉาชีพก่อเหตุได้หลายรูปแบบ จึงอยากให้ประชาชนระมัดระวัง เวลาจอดรถก็ควรมีการปิดเครื่อง ล็อกประตูให้ดี เพื่อป้องกันกลุ่มคนหรือมิจฉาชีพเหล่านี้ ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวด้วย

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น