ฝุ่นละลองขนาดเล็กค่า PM 2.5 ใน อ.สันกำแพง วิกฤติ 2 วันแล้ว ขมุกขมัวจนแทบมองไม่เห็น

ตั้งแต่เวลา 08.00 น. วันที่ 15 มี.ค. 63 ทางผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามท้องถนนทุกสายใน อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ทัศนวิสัยในการมองเห็น ซึ่งมีหมอกควันจากไฟป่าฝุ่นละอองขนาดเล็กค่า PM 2.5 ถึงขั้นวิกฤติมองไปทางไหนก็ขมุกขมัวจนแทบมองไม่เห็นพระธาตุดอยสุเทพ ตามท้องถนนมองระยะไกลไม่เห็น เวลาขับขี่รถจักรยานยนต์ ต้องเปิดไฟหน้ารถอย่างระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ซึ่งวันนี้เป็นวันหยุดผู้คนถ้าไม่จำเป็น จะไม่ออกไปไหนอยู่แต่ในบ้าน ทำให้ถนนใน อ.สันกำแพง โล่งมาก ยิ่งมาเจอทั้งค่า PM 2.5 และไวรัสโควิค-19 อีก ทำให้เศรษฐกิจแย่ลงไปตาม ๆ กัน อ.สันกำแพง และอำเภอข้างเคียงมีภูเขาสูงล้อมรอบ ทำให้ อ.สันกำแพง ซึ่งเป็นแอ่งกระทะ เวลาหมอกควันไฟไหม้ป่ามาจากที่อื่น จึงไหลเข้ามาใน อ.สันกำแพง ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ตั้งแต่เช้าเมื่อวานที่ 14 มี.ค. 63 ท้องฟ้ามืดมาตลอดทั้งวัน จนถึง เวลา 19.00 น. ส่วน อ.แม่ออน มีพื้นป่าไม้ภูเขาสูง 100 % ทั้ง 6 ตำบล 49 หมู่บ้าน และ อ.สันกำแพง เป็นอำเภอที่ติดต่อกัน มี 10 ตำบล ที่มีป่าไม้มี ต.ห้วยทราย ต.ร้องวัวแดง และ ต.ออนใต้ ทั้ง 2 อำเภอ จึงเข้มไฟป่า ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ชุดดับไฟป่า กำนัน ผญบ. อาสาสมัคร ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ม เพื่อไม่ให้เกิดหมอกควันขึ้นได้ จึงจัดตั้งเวรยามเปลี่ยนกันเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง จนถึงที่ทางจังหวัดกำหนดเวลาวันที่ 10 ม.ค. ถึง 30 เม.ย.นี้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจึงเข้มงวดทางด้าน นายสราวุฒิ วรพงษ์ นายอำเภอสันกำแพง จ.เชียงใหม่ ได้เปิดเผยว่า ทาง จ.เชียงใหม่ ปรับมาตรการคุมเข้มเชิงพื้นที่ ลงลึกถึงหมู่บ้าน ขอความร่วมมือจัดชุดลาดตระเวน ประชาสัมพันธ์ชี้แจงทำความเข้าใจสถานการณ์ฯ พร้อมหาข่าว ดำเนินมาตรการด้านกฎหมาย โดยนำประชาชนชุดหาของป่าล่าสัตว์ ชรบ.จิตอาสา ทหาร ตำรวจร่วม X-ray ทุกหมู่บ้านเสี่ยง ตลอดจนจัดชุดดับไฟป่าจากกรมป่าไม้ ฝ่ายปกครอง อปท.จิตอาสาร่วมฯ พร้อมขอสนับสนุนอากาศยานดับเพลิงจาก ปภ.ทอ. กระทรวงทรัพย์ และ ทบ. สนับสนุนภารกิจ นอกจากนั้นได้กำหนดให้วันอังคารที่ 17 มี.ค. 63 เวลา 09.30 น. เป็นวันแห่งความร่วมมือของทุกภาคส่วน จังหวัด อำเภอ อปท. ตำบล หมู่บ้าน ทุกครัวเรือน ฉีดล้างทำความสะอาดเมือง หน้าบ้าน ร้านค้า ทั้งจังหวัดอีกด้วยทางผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามท้องถนนทุกสายใน อ.สันกำแพง มีค่า PM 2.5 ถึงขั้นวิกฤติ มองไปทางไหนต่างก็ขมุกขมัว และมองไปทางพระธาตุดอยสุเทพไม่เห็นแม้แต่นิด แม้แต่แสงอาทิตย์ยังไม่สามารถทะลุผ่านลงมาได้

ร่วมแสดงความคิดเห็น