พ่อเมืองสามหมอกย้ำ หากพบผู้ใดเผาป่า ให้จับตัวมาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด

วันนี้ 15 มี.ค. 63 สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ยังคงทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยค่าหมอกควัน ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ ล่าสุดตรวจพบที่ ต.จองคำ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีค่าเกินมาตรฐาน PM 2.5 ทะลุถึง 240 ไมโครกรัม ค่า PM 10 เท่ากับ 259 ไมโครกรัม และ AQI สูงถึง 350 ไมโครกรัม ซึ่งถือว่าเป็นประวัติการของภาวะหมอกควัน ที่มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นของปีนี้ในพื้นที่ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และอยู่ในขั้นสีแดงส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งในเรื่องของอาการแสบตา ระคายเคืองคอ ไอ รวมทั้งระบบทางเดินหายใจ หลังค่าหมอกควัน ได้เพิ่มทวีความรุนแรง ขณะที่สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ ล่าสุดไฟป่าในพื้นที่ 2 ข้างทางถนนสาย108 แม่สะเรียง-แม่ฮ่องสอน และสาย 1095 แม่ฮ่องสอน-ปาย ยังคงลุกไหม้ ทั้งนี้ชุดดับไฟป่า สบอ.16 กำนัน ผญบ. ต้องระดมช่วยกันดับไฟอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไฟป่าได้ลุกลามมาจากเขตรอยต่อชายแดนเพื่อนบ้าน จนไม่สามารถควบคุมได้ จึงทำให้สภาวะอากาศของพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ปกคลุมด้วยหมอกควันสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน และส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว การจราจร รวมทั้งปัจจัยต่อสุขภาพของประชาชน ขณะที่หน่วยงานราชการ อปท.ในพื้นที่ ก็ได้พ่นละอองน้ำเพื่อช่วยให้หมอกควันในอากาศเบาบางลงด้าน นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ได้ออกหนังสือประกาศ จ.แม่ฮ่องสอน กำหนดช่วงเวลาห้ามเผาเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 รวม 46 วัน เป็นช่วงห้ามเผาอย่างเด็ดขาด โดยให้ส่วนราชการทุกหน่วยงาน ทุกสถานศึกษา อปท.ทุกแห่ง อำเภอทุกอำเภอ รวมทั้งตำบลหมู่บ้านได้ดำเนินการตามมาตรการที่จังหวัดกำหนดอย่างเคร่งครัด ในส่วนภาคเกษตรกรรม หากมีความจำเป็นต้องเผาเศษวัชพืช เศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ในที่ดินทำกินให้ดำเนินการในห้วงวันที่ 1-10 เมษายน 2563 เท่านั้น โดยให้ดำเนินการตามแผนและแนวทางที่จังหวัดกำหนด เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาและหมอกควัน และได้แจ้งมายัง จนท.ส่วนราชการทุกหน่วย ถ้าพบผู้ใดเผาป่า ให้จับตัวมาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด

ร่วมแสดงความคิดเห็น