กรมอนามัย จับมือเซ็นทรัลเวิลด์ สู้ COVID-19 คุมเข้มจุดเสี่ยงในศูนย์การค้า

​วันนี้ (17 มีนาคม 2563) แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงกิจกรรมรอบรู้สู้ COVID-19 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ในช่วงเวลานี้ รัฐบาลมีความห่วงใยคนไทยทุกคนโดยมอบให้กระทรวงสาธารณสุขออกมาตรการเร่งด่วน ยกระดับในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคอย่างเข้มข้น รวมทั้งเพิ่มมาตรการทางกฎหมาย ควบคุมคนกลุ่มเสี่ยงหรือผู้สัมผัสโรคเพื่อจำกัดการแพร่ระบาดภายในประเทศ โดยเฉพาะสถานที่ที่เป็นแหล่งรวมผู้คนจำนวนมาก เช่น ห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้า ซึ่งมีจำนวนมากในประเทศ ผู้ประกอบการควรให้ข้อมูลความรู้ คำแนะนำ หรือจัดหาสื่อประชาสัมพันธ์การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคกับประชาชนที่ใช้บริการ จัดเตรียมจุดบริการแอลกอฮอล์เจล บริเวณทางเข้า-ออกศูนย์การค้าฯ หรือจุดบริการลิฟต์ด้วย แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวต่อไปว่า ต้องรณรงค์ให้พนักงานป้องกันตนเองโดยการล้างมือก่อนเข้าทำงานและทุกครั้งที่สัมผัสอุปกรณ์สิ่งของ เครื่องใช้ที่มีผู้สัมผัสจำนวนมาก พร้อมทั้งเช็ดทำความสะอาดโต๊ะ คอมพิวเตอร์ ตรงพนักงานแคชเชียร์ หรือจุดเสี่ยงที่ต้องสัมผัสร่วมกับผู้อื่น ด้วยน้ำสบู่หรือน้ำผงซักฟอก หรือน้ำยาทำความสะอาด และแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ อาทิ ที่จับประตูทางเข้า–ออกศูนย์การค้า ห้องน้ำ โดยเพิ่ม ความตระหนักให้กับพนักงานทำความสะอาดด้วยการสวมหน้ากากผ้าและถุงมือยางขณะปฏิบัติงาน และเน้น ทำความสะอาด 7 จุดเสี่ยงปนเปื้อนเชื้อโรคในห้องส้วม ได้แก่ 1. ที่จับสายฉีดชำระ 2. บริเวณพื้นห้องส้วม 3. ที่รองนั่งโถส้วม 4. ที่กดโถส้วม 5. โถปัสสาวะ 6. ที่เปิดก๊อกอ่างล้างมือ และ 7. กลอนประตูหรือลูกบิด“สำหรับร้านอาหาร โดยเฉพาะศูนย์อาหารที่มีพนักงานให้บริการจำนวนมาก ควรจัดให้มีการตรวจ คัดกรองพนักงานทุกคนก่อนเข้าทำงาน หากพบว่ามีพนักงานป่วย ควรให้หยุดรักษาตัวที่บ้านเพื่อป้องกันการ แพร่ระบาดของโรค และหากพบว่ามีอาการป่วยรุนแรงควรให้รีบไปพบแพทย์ ส่วนประชาชนผู้ใช้บริการ ต้องป้องกันตนเองโดยสวมหน้ากากผ้า และหากมีอาการป่วย ไอ จาม ให้สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งในการจัดกิจกรรมครั้งนี้กรมอนามัยได้รับการสนับสนุนหน้ากากอนามัยจำนวน 5,000 ชิ้น จากประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อนำไปมอบให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขต่อไป” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น