ติดตามสถานการณ์โรคติดเชื้อ “โควิด-19” ลำปางเตรียมพร้อมเฝ้าระวัง

ตามที่มีรายงานจากกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับสถานการณ์โรคติดต่อ จากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” ในประเทศไทย ซึ่งได้ระบุพบผู้ป่วยรายใหม่ เพิ่มจำนวนมากขึ้นอีก 30 ราย ทำให้ขณะนี้ภายในประเทศ มียอดจำนวนผู้ป่วยสะสมรวมแล้ว 177 ราย และจากการแพร่ระบาดของโรคในระยะนี้ ทางจังหวัดลำปางได้มีการจัดเตรียมมาตรการต่าง ๆ ไว้เพื่อรองรับ โดยล่าสุดที่ห้องประชุม ชั้น 3 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง  นายก่อพงษ์ โกมลรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ พร้อมด้วย นายพินิจ แก้วจิตคงทอง ปลัดจังหวัดฯ และนายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดฯ ได้ร่วมประชุมกับหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในนามคณะทำงาน “ศูนย์อำนวยการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)” เพื่อติดตามรับทราบข้อมูลประเมินสถานการณ์ระดับพื้นที่ พร้อมจัดเตรียมมาตรการรองรับ ในการเฝ้าระวังป้องกันโรค และวางแนวทางปฏิบัติไว้ เบื้องต้นในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อการแก้ไขปัญหา และควบคุมโรค หากพบผู้ติดเชื้อหรือพบการแพร่ระบาดภายในเขตท้องที่

โดยท่ามกลางสถานการณ์ของการเฝ้าระวังดังกล่าว หลายหน่วยงานในจังหวัดลำปาง ได้มีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน ทั้งการป้องกันตนเองโดยใช้หน้ากากอนามัย หมั่นทำความสะอาดล้างมือเป็นประจำ ด้วยเจลแอลกอฮอล์ชนิดเข้มข้น หลีกเหลี่ยงการไปในสถานที่ที่แออัด ไม่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม น้ำมูกไหล เหนื่อยหอบ เจ็บคอ รวมถึงให้ระมัดระวังการสัมผัสพื้นผิวที่ไม่สะอาด ส่วนสภาพปัญหาพื้นที่ปัจจุบันพบว่า ในจังหวัดลำปางหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ เริ่มขาดตลาดไม่สามารถหาซื้อได้ตามจำนวนที่ต้องการ ซึ่งทางจังหวัดได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วน เร่งแก้ไขสถานการณ์เปิดฝึกอบรมสอนวิธีการทำเจลแอลกอฮอล์ให้แก่ประชาชน และสอนการทำหน้ากากอนามัยจากเศษผ้า ให้ประชาชนได้ทำไว้ใช้เอง
โดยเบื้องต้นภาครัฐได้สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ พร้อมกับสร้างทีมวิทยากร ครู ก เพื่อให้มีการนำขยายผลลงสู่ชุมชนทุกพื้นที่ ให้ทุกชุมชนได้จัดทำหน้ากากอนามัยจากเศษผ้า ทำเจลแอลกอฮอล์สำหรับใช้และแจกจ่าย โดยมีเป้าหมายที่จะให้ประชาชนในจังหวัดลำปาง มีหน้ากากอนามัยใช้ครบทุกคน อย่างน้อยคนละ 1 ชิ้น และในพื้นที่ชุมชนเมือง ให้ประชาชนมีเจลแอลกอฮอล์ขนาดพกพา ติดตัวไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินคนละ 1 ขวด
นอกจากนี้ในมาตรการเฝ้าระวังบุคคลกลุ่มเสี่ยง ทางจังหวัดลำปางได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ที่พักพิงสำหรับบุคคลที่เข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง มีการสืบเสาะข้อมูลกลุ่มคนที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ทำการติดตามขอความร่วมมือในการกักตัวเพื่อควบคุมโรค โดยมีสถิติข้อมูลล่าสุด (15 มี.ค. 63) ในพื้นที่จังหวัดลำปาง มีผู้เดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลี 139 คน, เดินทางกลับมาจากประเทศตามประกาศกระทรวง (จีน อิตาลี อิหร่าน) 37 คน, เดินทางกลับมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง 153 คน, มีผู้ใกล้ชิดบุคคลกลุ่มเสี่ยง 206 คน และมีบุคลากรทางการแพทย์ ที่สัมผัสผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง 156 คน รวมจำนวนคนที่ต้องเฝ้าระวัง 691 คน
ในจำนวนนี้มีผู้ผ่านการกักตัวแล้ว 14 วัน รวม 413 คน คงเหลือบุคคลต้องเฝ้าระวัง 278 คน โดยทั้งหมดเจ้าหน้าที่สามารถติดตามทำการกักตัว เพื่อเฝ้าดูอาการได้ครบทุกคน 100% และสำหรับในส่วนมาตรการอื่นๆ ทางจังหวัดลำปางได้ขอความร่วมมือในการยกเลิกกิจกรรม ที่จะมีการรวมตัวของคนจำนวนมาก เพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการติดต่อของโรค

ด้าน นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้กล่าวถึงการเฝ้าระวังป้องกันโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” ในครั้งนี้ว่า ทางจังหวัดลำปางเอง ได้มีการติดตามสถานการณ์มาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง นับแต่มีกระแสข่าวการแพร่ระบาดของโรค พร้อมได้จัดให้มีมาตรการเฝ้าระวังป้องกันในทุก ๆ ด้าน จนถึงวันนี้ในพื้นที่จังหวัดลำปาง ยังไม่มีรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อแม้แต่คนเดียว คงมีแต่ผู้ที่อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังต้องกักตัวดูอาการ 14 วัน ซึ่งส่วนใหญ่ได้ผ่านขั้นตอนดังกล่าวไปแล้ว จะเหลือเพียงกลุ่มคนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ หลังวันที่ 8 มี.ค. 63 เท่านั้น ที่จะยังอยู่ในช่วงของการกักตัว นอกจากนี้ ทางจังหวัดยังได้ใช้มาตรการอื่นๆ เข้ามาร่วมปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นการห้ามข้าราชการเดินทางไปต่างประเทศ การงดกิจกรรมรวมคนหมู่มาก หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมตั้งจุดคัดกรองอย่างเข้มงวด เป็นต้น โดยหลังจากนี้จะเน้นกำชับให้ทุกหน่วย ปฏิบัติตามมาตรการทุกขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้เพื่อเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นในเขตพื้นที่

ร่วมแสดงความคิดเห็น