กกร.จ.เชียงใหม่ และสภาลมหายใจเชียงใหม่ ยื่นหนังสือเสนอรัฐบาล ออกกฏหมายอากาศสะอาด และนโยบาย ฟื้นเศรษฐกิจเร่งด่วน

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2563 ที่สนามบินเชียงใหม่ ตัวแทนกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร) จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย สภาลมหายใจเชียงใหม่ ยื่นหนังสือ ต่อ ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์พรรคประชาธิปัตย์ ประธานกรรมาธิการฝ่ายการเงินและการคลัง ผลักดันให้รัฐบาล ให้มีการตั้งคณะทำงานบริหารอากาศแห่งชาติ และสนับสนุนกฎหมายอากาศสะอาด Clean Air Act รวมทั้งข้อเสนอนโยบาย ฟื้นเศรษฐกิจเร่งด่วนในระดับท้องถิ่น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้พ้นวิกฤติ Covid-19 โดยการจัดสรรงบประมาณจากส่วนกลาง
ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) พรรคประชาธิปัตย์ ประธานกรรมาธิการฝ่ายการเงินและการคลัง กล่าวว่า ผมในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เคยเป็นคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มีความผูกพันกับเมืองเชียงใหม่มาหลายปีด้วยกัน และเห็นความเดือดร้อนของประชาชนชาวเชียงใหม่ เรื่องปัญหาหมอกควัน มาร่วม 10 ปี ก็ยังไม่มีการพัฒนาที่ดีขึ้น อยากเห็นผู้บริหารที่อยู่ ทุ่มเททำงานไม่น้อยกว่า 4 – 5 ปี และมีภารกิจที่ชัดเจนในการที่จะมาแก้ปัญหา โดยเฉพาะเรื่องของหมอกควัน ผมก็ได้มีการตั้งประเด็นไปแล้ว และวันนี้ที่มาสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็มาเจอสภาพปัญหาหมอกควัน อย่างนี้อีก ซึ่งถือว่าเป็นสภาพที่มีหมอกควันที่ไม่ปลอดภัยที่สุดในโลก ณ เวลานี้ เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโลกแน่นอนก็มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ต่อประชาชนที่สูดลมหายใจทุกวัน

ผมเชื่อว่าเรื่องการแก้ปัญหาทุกคนเข้าใจดี อยู่แล้ว ปัญหาคือภาคปฏิบัติมากกว่า และการประสานร่วมกับจังหวัดต่าง ๆ ละแวกเดียวกันนี้ก็เชื่อได้ว่าจังหวัดเชียงใหม่ ลำพังจังหวัดเดียวคงแก้ไม่ได้ก็ต้องมีระบบการประสานร่วมกับจังหวัดต่าง ๆ และก็มีการร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคนี้ด้วย ซึ่งเรื่องแม่น้ำโขง เราก็มีการประชุมกันมาเยอะ แต่ทำไมเรื่องหมอกควันถึงไม่ค่อยมีการคุยและมีการปฏิบัติการกัน
และในส่วนของปัญหาเศรษฐกิจตอนนี้ที่มีผลกระทบจาก Covid-19 เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีความร้ายแรงพอ ๆ กัน ก็ต้องให้ทุกคนระวังตัวไว้ วิธีปฏิบัติการไปชุมนุมที่ต่าง ๆ หรือการสัมผัสกับคนที่มีโอกาสรับเชื้อมาอย่างนี้เป็นต้น ง่าย ๆ เรื่องช้อนกลาง ต้องบอกว่าเป็นการแนะนำที่ไม่ถูกต้อง ช้อนกลางที่สิงคโปร์เขาว่าเป็นแหล่งในการแพร่เชื้อ ทุกคนต้องมีช้อนของตัวเอง แต่ต้องมี 2 ช้อน ช้อนหนึ่งตักเข้าปากตัวเองอีกช้อนหนึ่งสำหรับตักอาหารที่เป็นของกลาง แต่ไม่ใช่เอาช้อนกลางมาใช้ เป็นต้น

สำหรับงบประมาณปี 2563 ลงราชกิจจาฯไปแล้ว ยังมีงบที่จะมาใช้จ่ายได้อีกเยอะ ข้อจำกัดอยู่ที่การทำงานมากกว่า ว่าทุกคนต้องระมัดระวังอย่างไร แก้ปัญหาอย่างไร ไม่ใช่ทำงานแบบเดิม ๆ ผมก็จะนำเรื่องนี้กลับไปหารือยังรัฐสภาต่อไป เพื่อจะให้รัฐบาลได้ส่งเรื่องไปยังรัฐบาลให้ดำเนินการแก้ไข ผมไม่อยากเห็นการตั้งคณะกรรมการอะไรอีกแล้ว ผมอยากเห็นรัฐบาลได้มีการมอบหมายให้มีผู้รับผิดชอบ และทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง และต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำในระบบที่เป็นอยู่ในประชุมแล้ว สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ด้านนายวิทยา คองทรัพย์ ในนามตัวแทนกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร) จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ได้นำมติหรือว่าข้อเสนอของภาคเอกชน หรือ กกร.กลาง ซึ่งประกอบด้วยหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เรามีมติเห็นพ้องว่า เราอยากจะยื่นข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาเรื่องฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 เนื่องจากอากาศเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของโลก เป็นปัจจัยสำคัญที่สดใสในการดำรงชีวิตของมนุษย์ และมนุษย์ทุกคนควร มีสิทธิ์ในการมีอากาศที่สะอาดหายใจอย่างสม่ำเสมอ และถือเป็นภารกิจสำคัญของรัฐบาล ที่ต้องทำให้เป็นเช่นนั้น ในระยะเวลา 12 ปี (2550 – ปัจจุบัน) อากาศของประเทศแทบทุกภาค ได้รับผลกระทบจาก Climate Change

จากพฤติกรรมของมนุษย์ที่ทำให้คุณภาพอากาศเป็นมลพิษมาก ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง หากไม่มีการบริหารจัดการปัญหานี้อย่างมืออาชีพ และทันเวลาจะส่งผลทำให้คุณภาพของประเทศ มีความเลวร้ายเกินที่จะแก้ไข แม้รัฐบาลทุกชุดจะพยายามแก้ไขมาโดยตลอต แต่ด้วยความรุนแรง รวมทั้งขาดการเตรียมการเชิงรุกก่อนที่จะเกิดวิกฤติ ทำให้ปัญหายังเกิดซ้ำ ๆ ไม่มีแนวโน้มจะลดลง เพื่อให้การแก้ไขปัญหานี้สำเร็จและรักษาอากาศให้ดี เป็นการปกป้องประชาชน คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน จังหวัดเซียงใหม่ จึงมีข้อเสนอผ่านมายังท่าน เพื่อโปรดพิจาณาช่วยเหลือผลักดัน ดังนั้น ขอโปรดพิจารณาเสนอให้มี ให้รัฐบาลมีนโยบายรักษาคุณภาพอากาศ ที่เหมาะสมในการดำรงชีวิตให้กับประชาชน
1. ขอให้รัฐบาลช่วยผลักดันให้มีกฎหมายอากาศสะอาด Clean Air Act ซึ่งจะเป็นการบริหารอากาศทั้งระบบ จากแนวโน้มของอากาศของโลกที่มีการเปลี่ยนแปลง จำเป็นต้องมีการบริหารอย่างมืออาชีพ
2. ตั้งคณะทำงานบริหารอากาศแห่งชาติ ในช่วงเวลาที่มีการรอกฎหมายอากาศสะอาด อยากจะให้มีการทำงานที่ต่อเนื่อง เพื่อควบคุมคุณภาพอากาศให้เหมาะสมกับ การดำรงชีวิตมุ่งลดปัจจัยการเกิดมลพิษ จากทุกแหล่งทั้งในเมืองในป่า และการสานงานที่มีประสิทธิภาพกับประเทศเพื่อนบ้าน มีการติดตามประเมินอย่างใกล้ชิดจากผู้บริหารระดับสูง อย่างสม่ำเสมอ จึงได้ยื่นข้อเสนอผ่านทางท่านประธานอนุกรรมาธิการ การเงิน การคลังของสภาผู้แทนราษฎรว่า ขอท่านโปรดพิจารณาข้อเสนอดังกล่าว ให้ท่านช่วยกรุณาผลักดันให้รัฐบาลสนับสนุนด้วย

นอกจากนี้ สภาลมหายใจเชียงใหม่ องค์กรภาคประชาชนและภาคเอกชน ได้ข้อเสนอแนะ เรื่องเร่งด่วน การตั้งนโยบาย พื้นเศรษฐกิจเร่งด่วนระดับท้องถิ่น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้พ้นวิกฤต Covid-19 โดยการจัดสรรงบประมาณจากส่วนกลาง มาดำเนินโครงการ 1. โครงการทำความสะอาดเมืองให้ปลอดเชื้อ (CLEAN CITY) 2. โครงการพ่นน้ำยาฆ่าชื้อ กำจัดยุง แมลงสาป หนู ตามท่อสาธารณะทั่วเมืองอย่างถี่ 3. โครงการอบรมจิตอาสาอนามัย 4. โครงการรับมือเฟส 3 ในกรณีพบผู้ป่วยจำนวนมากที่ต้องกักตัว เพื่อรอการรักษาและเฝ้าดูอาการจนหายป่วย และสถานพยาบาลที่เตรียมไว้มีไม่พอ เกิดวิกฤติจริง 5. โครงการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ให้ผู้คนทราบทุกก้าวย่างที่รัฐบาลพร้อม เตรียมการเพื่อประชาชน และ 6. โครงการสนับสนุนการสร้างงานในท้องถิ่น เพื่อเป็นประโยชน์สาธารณะ ต่อไป

จึงได้ยื่นข้อเสนอผ่านทาง ประธานอนุกรรมาธิการการเงินการคลัง ของสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ท่านช่วยกรุณาผลักดันให้รัฐบาลดำเนินการเป็นการเร่งด่วน

ร่วมแสดงความคิดเห็น