รู้จัก “พิณเปี๊ยะ” ดนตรีของเทวดา

พิณเพลี๊ยะ หรือ พินเปี๊ยะ, เปี๊ยะ เครื่องดนตรีโบราณล้านนา ที่มีความเก่าแก่มากที่สุดชิ้นหนึ่ง มีวัฒนาการมาจากพิณธนู มีสายตั้งแต่ 2 – 7 สาย กล่องเสียงทำด้วยกะลามะพร้าว ด้ามทำด้วยไม้เนื้อแข็งเหลาเป็นทรงกระบอกปลายด้านหนึ่งเรียวแหลมสวมไว้กับหัวเปี๊ยะ
ในภาษาล้านนาคำว่า “เปี๊ยะ” หมายถึง อวด หรือ แสดง จึงมีผู้รู้บางท่านสันนิษฐานว่าชื่อนี้น่าจะมาจากลักษณะการเล่นเปี๊ยะ ที่ต้องเปิดอกเสื้อออกอวด แต่ข้อสันนิษฐานนี้ได้มองข้ามเหตุผลที่ว่าในสังคมของคนล้านนานั้น ผู้คนทั้งหญิงชายต่างก็เปลือยอกกันอย่างเปิดเผย เป็นเรื่องปกติธรรมดา ดังนั้น จึงไม่น่าจะมีการเปลือยอก “เปี๊ยะ” กันอีก เปี๊ยะเป็นเครื่องดนตรีที่ชาวไทยวนรู้จัก และทำเล่นกันมาตั้งแต่อดีต จากหลักฐานในพงศาวดารล้านช้างระบุว่า กษัตริย์แห่งอาณาจักรไทยในประเทศจีนตอนใต้ ได้ส่งครูมาสอนคนไมยในแหลมอินโดจีน ให้รู้จักนาฏศิลป์และเครื่องดนตรี ซึ่งก็รวมถึงเปี๊ยะด้วย
อย่างไรก็ตามแม้ว่าในพงศาวดารล้านช้างจะกว่าวว่า กษัตริย์ไทยแห่งอาณาจักรไทยยูนาน เป็นคนนำเอาเปี๊ยะมาเผยแพร่ แต่ก็อยู่ในรูปแบบของตำนาน ซึ่งยังไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงที่แน่นอนได้ นอกจากจะสรุปว่าสมัยที่แต่งตำนานหรือพงศาวดารนี้ขึ้น ผู้แต่งตำนานนี้ได้รู้จักเปี๊ยะกันแพร่หลายพอสมควรในสมัยหนึ่ง เครื่องดนตรีเปี๊ยะเคยนิยมอย่างแพร่หลายกันแต่ในราชสำนักฝ่ายเหนือสมัยโบราณ ต่อมาได้แพร่ออกมาสู่กลุ่มชาวบ้านที่พอมีฐานะและมีฝีมือทางดนตรี เพราะหัวเปี๊ยะ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญนั้นหายากและมีราคาแพง ประกอบกับเปี๊ยะเป็นเครื่องดนตรีที่เล่นยากและมีเสียงไพเราะมาก

ดังนั้นใครที่เล่นเปี๊ยะได้ก็จะเป็นที่ยกย่องชื่มชมเป็นพิเศษ ทำให้หนุ่ม ๆ ล้านนาสมัยก่อนนิยมที่จะเสาะแสวงหาเปี๊ยะมาเล่นกัน เพราะจะได้เปรียบเครื่องดนตรีชนิดอื่น ในเวลาที่ไปเที่ยวสาวยามค่ำคืน การเล่นเปี๊ยะ ผู้เล่นต้องครอบกล่องเสียงไว้ที่หน้าอกและดีดด้วยเทคนิคเฉพาะที่เรียกว่า “ป๊อก” โดยใช้นิ้วก้อยหรือนิ้วนางดีดสาย และใช้โค่นนิ้วชี้ของมือนั้นแตะสายที่จุดเสียงจึงจะได้เสียงดังสดใส กังวาน คล้ายเสียงระฆัง ว่ากันว่าเปี๊ยะที่ดีจะต้องมีเสียงดังเหมือน “เต็งพันเมา” คือ กระดิ่งที่มีเสียงชวนให้หลงใหลโดยเร็วพลัน เปี๊ยะ เป็นเครื่องดนตรีที่ชาวบ้านในล้านนานิยมเล่นกันอยู่ในสมัยหนึ่ง ปัจจุบันได้สูญหายไปเกือบหมดแล้ว เปี๊ยะยังเป็นเครื่องดนตรีที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นอัจฉริยะของผู้ประดิษฐ์ และผู้เล่าเป็นอย่างมาก
นอกจากนั้น ยังเป็นเครื่องดนตรีระดับชาวบ้านที่ทำยากและมาราคาแพงที่สุด เสียงของเปี๊ยะมีลักษณะไพเราะ และโอ่อ่าอลังการกว่าเครื่องดนตรีชนิดใด แม้ว่าเสียงของเปี๊ยะที่ได้รับการบันทึกเอาไว้ และนำมาเปิดสู่กันฟังก็ไม่ได้มาจากยอดฝีมือในการเล่นเปี๊ยะ ทว่าก็ได้สะกดให้คนฟังเกดความใหลหลงติดอกติดใจ ในเสียงของมันได้ไม้น้อย
นอกจากนี้ เปี๊ยะยังเป็นเครื่องดนตรีที่ผู้เสียงสามารถพลิกแพลงได้อย่างอิสระ และกว้างขวางกว่าเครื่องดนตรีชนิดอื่น ดังนั้น “เปี๊ยะ” จึงสะท้อนภาพเอกลักษณ์ของสังคมล้านนาได้ค่อนข้างจะพิเศษ และชัดเจนกว่าเครื่องดนตรีที่ชาวบ้านนิยมเล่นกัน

จากบทความเรื่อง “จากเสียงซึงสู่พิณเปี๊ยะ” ซึ่งเขียนโดยคุณจรัล มโนเพ็ชร กล่าวไว้ว่า “พิณเปี๊ยะ” เกือบสูญหายไปจากโลกนี้แล้ว ถ้าไม่มีอุ้ยแปง โนจา ศิลปินผู้มีผลงานดีเด่นด้านวัฒนธรรมสาขาศิลปการแสดง (ดนตรีพื้นบ้าน – พิณเปี๊ยะ) อุ้ยวัน ถาเกิด และอุ้ยบุญมา ไชยมะโน ผู้มีผลงานดีเด่นด้านวัฒนธรรมสาขาเพลงพื้นบ้าน (2540) ช่วยกันฟื้นฟูรักษาขึ้นมา เหตุที่เปี๊ยะไม่เป็นที่แพร่หลาย ก็เพราะเป็นเครื่องดนตรีที่มีเสียงเบามาก เล่นรวมกับเครื่องดนตรีอื่นไม่ได้ ท่วงทำนองและลีลาการเล่นก็เป็นเอกลักษณะเฉพาะตัว ผู้เล่นและคนฟังจะต้องมีสมาธิ กล่าวคือเสียงเปี๊ยะที่แผ่วเบาและกังวานอยู่นั้น เปรียบประดุจกระแสเสียงดนตรีที่เล่นให้เทวดาฟังประมาณนั้นเชียว
บทความโดย
จักรพงษ์ คำบุญเรือง

ร่วมแสดงความคิดเห็น