จังหวัดแม่ฮ่องสอน สั่งเข้ม ลาดตระเวณป้องไฟป่า เพิ่มความเข้มข้นในการลาดตระเวน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงพื้นที่เผาซ้ำซาก

รองแม่ทัพภาคที่ 3 เน้นย้ำ 9 จังหวัดภาคเหนือ เพิ่มความเข้มข้นในการลาดตระเวน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง พื้นที่เผาซ้ำซาก ของแต่ละจังหวัด กดดันไม่ให้มีการลักลอบเผา อย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563 พลตรี จิรเดช กมลเพ็ชร รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เปิดเผยภายหลังการประชุมผ่านระบบ VDO Conference ร่วมกับ 9 จังหวัดภาคเหนือ ว่า จากการประชุมร่วมกับ 9 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ ได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัด เพิ่มความเข้มข้น เพิ่มความถี่ ในการลาดตระเวน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงต่าง ๆ ประกอบด้วย พื้นที่เกิดไฟไหม้ซ้ำซาก พื้นที่เสี่ยงเกิดจุดความร้อนในพื้นที่ โดยขอให้บูรณาการกำลังร่วมกัน ทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน และจิตอาสา เพื่อกดดันไม่ให้มีการลักลอบเผาเกิดขึ้นในพื้นที่ และขอให้ปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง และเคร่งครัด ขอเป็นกำลังใจให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติภารกิจด้วยความเข้มแข็ง และอดทน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 30 มี.ค. 63 พบว่า ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือเกิดจุดความร้อน สะสม จำนวน 97,177 จุด โดยพบจุดความร้อนสะสมมากที่สุด ที่จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 15,244 จุด จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 12,532 จุด และจังหวัดตาก จำนวน 10,452 จุด ตามลำดับ
สำหรับจังหวัดแม่ฮ่องสอน คงเป็นจังหวัดที่มีการลอบเผาป่ามากที่สุดรองจากจังหวัดเชียงใหม่ โดยพบจุดความร้อนสูงถึง 12,532 จุด จนทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากหมอกควันไฟป่า และค่าฝุ่นละอองพิษสูงเกินค่ามาตรฐานต่อเนื่องมากว่า 1 เดือนแล้ว นอกจากนั้นหมอกควันยังส่งผลกระทบต่อเครื่องบินโดยสารที่รับส่งนักท่องเที่ยว และชาวแม่ฮ่องสอนเอง ทำให้การคมนาคมทางอากาศต้องสะดุด และล่าสุดสายการบินต่าง ๆ ได้ยกเลิกเที่ยวบินแล้ว ซึ่งได้รับผลกระทบจากหมอกควันไฟป่า และ ปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19

ร่วมแสดงความคิดเห็น