ครม.ผ่อนปรนแรงงานต่างด้าว “กัมพูชา-ลาว-พม่า” ที่ไม่สามารถเดินทางกลับก่อนวันที่ 30 เม.ย. ทำงานในไทยชั่วคราว

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการผ่อนปรน การอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว และการทำงานให้กับแรงงานต่างด้าว ที่เข้ามาทำงานตามข้อตกลงที่รัฐบาลไทย ได้ลงนามกับรัฐบาลประเทศคู่ภาคี ทั้งนี้ มิให้นำมาตรา 12 (10) และมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาบังคับใช้แก่คนต่างด้าว โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่กำหนด ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
กระทรวงมหาดไทย ออกประกาศการยกเว้นข้อห้ามมิให้คนต่างด้าว เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักร ตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน หรือบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการจ้างแรงงาน กรณีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) เพื่อผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว เมียนมา) ซึ่งเข้ามาทำงานตาม MOU ที่การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุด สามารถอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวได้ต่อไปจนถึงระยะเวลาตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ประกาศ ณ วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 หรือสิ้นสุดระยะเวลาตามที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯเพิ่มเติม
ประกาศการยกเว้นข้อห้ามมิให้คนต่างด้าว เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาและเมียนมา ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานราชอาณาจักร ตามมาตรา 64 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 กรณีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 เพื่อผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าว กัมพูชาและเมียนมา ซึ่งเข้ามาทำงานในประเทศไทยโดยใช้บัตรผ่านแดน ที่การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุด สามารถอยู่ในราชอาณาจักรชั่วคราวได้ต่อไปจนถึงระยะเวลา ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ประกาศ ณ วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 หรือสิ้นสุดระยะเวลาตามที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯเพิ่มเติม
กระทรวงแรงงานประกาศ การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักร เป็นกรณีพิเศษตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวที่การอนุญาตทำงานสิ้นสุดสามารถทำงานไปพลางก่อนได้ จนถึงระยะเวลาตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ประกาศ ณ วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 หรือสิ้นสุดระยะเวลาตามที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ เพิ่มเติม
ทั้งนี้การผ่อนปรนการอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว และการทำงานให้กับแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานตามข้อตกลงที่รัฐบาลไทยได้ลงนามกับรัฐบาลประเภทคู่ภาคี มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนต่างด้าว 2 กลุ่มคือ คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ซึ่งถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง และได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามกฎหมาย ว่าด้วยคนเข้าเมืองภายใต้บันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงานหรือบันทึกข้อตกลง ว่าด้วยการจ้างแรงงานระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ที่วาระการจ้างงานครบ 4 ปี และระยะเวลาการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลง แต่ไม่สามารถเดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ก่อนหรือในวันที่ 30 เมษายน 2563
คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาและเมียนมา ซึ่งถือบัตรผ่านแดนตามมาตรา 13 (2) แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักร ตามมาตรา 64 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมและการอนุญาตให้พำนักในเขตพื้นที่ชายแดนที่ได้รับอนุญาตสิ้นสุด และไม่สามารถเดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ก่อน หรือในวันที่ 30 เมษายน 2563
โดยเป็นการผ่อนปรนให้คนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานตามข้อตกลง ที่รัฐบาลไทยได้ลงนามกับรัฐบาลประเทศคู่ภาคีอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและทำงานได้ต่อไป การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร การอนุญาตให้ทำงานเป็นไปตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ประกาศ ณ วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 ทั้งนี้ หากมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ เพิ่มเติม ให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงแรงงาน ออกประกาศให้ครอบคลุมตามระยะเวลาดังกล่าวได้ โดยอนุโลม
ภายหลังสิ้นสุดระยะเวลาตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ประกาศ ณ วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 หรือสิ้นสุดระยะเวลาตามที่มีการประกาศฯ เพิ่มเติม (หากมี) แรงงานต่างด้าวต้องเดินทางออกจากราชอาณาจักรภายในระยะเวลาตามประกาศกระทรวงมหาดไทยที่เกี่ยวข้อง

ร่วมแสดงความคิดเห็น