Skip to content
ตำรวจแม่ริม เชียงใหม่ ตามตัวโจ๋ป่วน แจกกล้วยเจ้าหน้าที่ หลังถูกเตือนให้สวมหน้ากากอนามัย ขณะที่ผู้การเชียงใหม่ สั่งดำเนินคดีเฉียบขาด
จากกรณี เมื่อคืนวันที่ 31 มี.ค. 63 มีการโพสต์ข้อความผ่านโลกโชเซียล ว่ามีกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปป่วนในโรงพยาบาล และแจกกล้วยฝห้กับเจ้าหน้าที่ด้วย เนื่องจากไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลบอกให้สวมแมส ปิดบังป้องกันการแพร่เชื้อโรคระบาดโควิด 19 เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทาง พ.ต.อ.มาโนช สุดสวาสดิ์ ผกก.สภ.แม่ริมฯ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.นำพล พรหมการัตน์ รอง ผกก.ป.สภ.แม่ริมฯ และ พ.ต.ท.ปธิกร สุยะวา สวป.สภ.แม่ริมฯ ดำเนินการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าดำเนินการกับกลุ่มวัยรุ่นก่อกวนดังกล่าว โดยมี ร.ต.อ.กำจร วงค์สุวรรณ รอง สวป.สภ.แม่ริมฯ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจรถยนต์และสายตรวจดอนแก้วเข้าปฏิบัติหน้าที่พบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นป่วนโรงพยาบาลนครพิงค์ตามที่ได้รับแจ้ง ซึ่งเกิดจากการที่กลุ่มวัยรุ่นไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลซึ่งว่ากล่าวตักเตือนให้ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อความปลอดภัยและลดการแพร่กระจายเชื้อโรคเมื่อใช้บริการในโรงพยาบาลตามข่าวที่ปรากฎนั้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามกลุ่มเด็กวัยรุ่นดังกล่าวไปถึงบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น ก่อนถึง รพ.นครพิงค์ พบกลุ่มเด็กวัยรุ่นจำนวน 10 คนซึ่งเป็นกลุ่มเด็กดังกล่าวจริง และเข้าตรวจสอบตรวจค้นรถจักรยานยนต์พบว่ามีมีการดัดแปลงสภาพรถ, อุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบ, ไม่มีใบอนุญาตขับขี่, ไม่ติดแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษี รวมถึงไม่พบสำเนาคู่มือรถ จึงได้ยึดรถไว้เพื่อตรวจสอบ และจะได้ประสานผู้ปกครองมารับทราบและทำทัณฑ์บน
อย่างไรก็ตามกลุ่มวัยรุ่น ดังกล่าว ทำตัวป่วน ไม่ยอมทำตามที่รัฐบาลกำหนด ให้สวมหน้ากากอนามัย เมื่อถูกตักเตือน กลุ่มวัยรุ่นกลับแสดงพฤติกรรมที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคม จนมีการวิพาก์วิจารร์กันต่าง ๆ นานาในโลกโชเซียล และถูกสังคมติเตียนอย่างหนัก และพฤติกรรมที่ถูกวิจารณ์ อีกอย่างคือ ทำตัวไม่สนว่าขณะนี้บ้านเมืองเกิดอะไรขึ้น ไม่สนว่ามีโรคระบาด กลับพูดจาไม่ดีต่อเจ้าหน้าที่หลังจากนั้นก็พากันขี่รถ จยย.ซ้อนท้ายออกไป และยัง ยกนิ้วกลางแจกกล้อวยให้เจ้าหน้าที่ด้วย
ทางด้าน พล.ต.ต.พิเชษฐ จิระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่า เกี่ยวกับวัยรุ่นดังกล่าวที่ถูกตำหนิและสั่งการให้ดำเนินคดีไปแล้วถือว่าเป็นเรื่องของจิตสำนึกล้วน ๆ ในสุ่มเสี่ยงช่วงที่เชื้อโรคระบาดแบบนี้ ก็ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฎิบัติหน้าที่ต่อไปอย่างเข้มแข็ง เพราะทำหน้าที่ถูกต้องแล้ว เพื่อป้องกันไปแพร่เชื้อให้กับผู้อื่นดังนั้นคำแนะนำของบุคลากรทางการแพทย์ จึงถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่ทุกคนต้องยึดถือปฎิบัติ และได้เชิญตัวผู้ปกครองทั้งหมด มาอบรมและทำฑัณบนไว้ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดประกาศปิดสถานประกอบการไป เกือบจะ 30 สถานที่แล้ว เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 หากยังพบเห็นผู้ที่ยังเอาเปรียบสังคม ยังลักลอบเปิด ก็ขอแจ้งให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยเพื่อจะได้เข้าดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ร่วมแสดงความคิดเห็น