น่าน ศูนย์ประสานงานเครือข่ายคนน่านจัดการตนเอง ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ น่าน ขอเสนอให้มีมาตรการปิดจังหวัด

เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 เวลา 14.00 น.หน้าศาลากลางจังหวัดน่าน ตำบลไชยสถาน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน นายวรกิตติ ศรีทิพากร ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน รับหนังสือจาก นายเพชร ไชยพงษ์ ประธานที่ประชุมสภาองค์กรชุมชนตำบล จังหวัดน่าน ตัวแทนศูนย์ประสานงานเครือข่ายคนน่านจัดการตนเอง / สภาองค์กรชุมชนตำบล ที่เดินทางมายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เรื่อง การขอเสนอให้มีมาตรการปิดจังหวัดเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค โควิด -19 โดยทางกลุ่มได้มีรายชื่อประชาชนที่ขอเสนอให้มีการปิดจังหวัดน่าน
เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าน 2019 (Covid-19) ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนเป็นวงกว้างมีการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วและมีความรุนแรงทำให้อัตราการป่วยและการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้รัฐบาลต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๓ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด จากมาตรการของรัฐบาลดังกล่าว สภาองค์กรชุมชนตำบลจังหวัดได้มีข้อคิดเห็นว่า ยังมีโอกาสและความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่อาจเข้ามาแพร่กระจายในพื้นที่จังหวัดน่าน ซึ่งขณะนี้ยังเป็นพื้นที่ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ
อาศัยบทบาทหน้าที่ในมาตรา 27 ( 2 ) ของ พระราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชนตำบล 2551 สภาองค์กรชุมชนตำบล ของจังหวัดน่าน จึงขอเสนอให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้มีมาตรการในการออกคำสั่งให้ปิดจังหวัด ในระยะเวลาที่มีการแพร่กระจายของเชื้อโรคจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายหรือตามความเหมาะสมในการจัดการในระดับพื้นที่จังหวัดในการดำเนินการตามมาตรการต่างๆเพื่อเป็นการป้องกันและลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อโรคเข้าสู่จังหวัดและส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและบุคคลากรทางการแพทย์/สาธารณสุขของจังหวัดน่าน ทั้งนี้สภาองค์กรชุมชนตำบล จังหวัดน่าน มีข้อเสนอเพื่อเป็นมาตรการในการปฏิบัติดังนี้
1.ขอให้ใช้เส้นทางเข้าออกจังหวัดเพียงเส้นทางเดียวคือ ผ่านด่านห้วยน้ำอุ่น ต.อ่ายนาไลย อ.เวียงสา จังหวัดน่าน เท่านั้นกรณีมีความจำเป็นในการเดินทางเข้าออกจังหวัดน่าน
2.อนุญาตให้รถขนส่งสินค้าเข้าออกได้ตามปรกติแต่ต้องมีการคัดกรองตามมาตรการอย่างเข้มงวด
3.อนุญาตให้บุคคลที่มีความจำเป็น ที่ต้องเดินทางเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของหน่วยงานราชการ สมารถเข้าออกได้แต่ต้องมีการคัดกรองตามมาตรการอย่างเข้มงวด
4. ให้ทำบันทึกข้อมูล ชื่อ-สกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ของผู้เดินทางเข้าออกจังหวัด ทุกคน
5.บุคคลที่ไม่สามารถแสดงเหตุผลความจำเป็นในการเข้าพื้นที่/ไม่ยินยอมให้คัดกรอง/ไม่สวมหน้ากากอนามัย ไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุข ทั้งนี้ให้อำนาจหัวหน้าชุดประจำจุดคัดกรองเป็นผู้ใช้ดุลพินิจในการพิจารณาตามมาตรการดังกล่าว
6.ในระยะของการปิดจังหวัดขอให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัด ได้ออกคำสั่งให้มีการจัดทำข้อมูลและ ได้ทำการคัดกรองแบบเข้มข้นในประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง อย่างเร่งด่วน เพื่อเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น
7.ให้ความรู้ คำแนะนำ ที่ถูกต้อง เกี่ยวกับ การปฏิบัติตนในระยะของการระบาดของโรคโควิด-19 แก่ประชาชนผ่านสื่อต่างๆที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ในสถานการณ์ ที่ประชาชนต้องให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามประกาศของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด
8.ให้มีจัดทำแผนในการป้องกันการเกิดโรคอุบัติใหม่แบบบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนเพื่อเตรียมความพร้อมทางด้านสาธารณสุขในการรองรับการการเกิดโรคระบาดใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ร่วมแสดงความคิดเห็น