เรื่องเล่าปาฏิหารย์ “หลวงปู่แหวน สุจิณโณ”

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2516 เมื่อนักบินของกองทัพอากาศนายหนึ่ง ได้นำเครื่องบินออกบินตามหน้าที่ปกติ วันนั้นเป็นวันที่ทัศนวิสัยดี ท้องฟ้าปลอดโปร่ง แม้จะมีเมฆ แต่นักบินก็สามารถเห็นท้องฟ้าเบื้องหน้าได้อย่างชัดเจน เขาบังคับเครื่องบินไปตามเส้นทางปกติ ซึ่งเป็นแนวบินที่พาดผ่านเหนือวัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ทันใดนั้นเอง นักบินต้องตกตะลึง เพราะเบื้องหน้าของตนนั้น ปรากฏพระชรารูปหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนก้อนเมฆ ขวางเส้นทางการบินอยู่ แต่ด้วยสัญชาตญาณ เขาจึงบิดคันบังคับหลบไปในทันที เครื่องบินโฉบผ่านพระรูปนั้นไปอย่างฉิวเฉียด
หลังจากตั้งสติได้ เขาไม่แน่ใจว่าตัวเองตาฝาดหรือไม่ จึงตัดสินใจขับเครื่องบินย้อนกลับมาอีกครั้ง และนั่นทำให้เขายิ่งตกใจซ้ำสอง เพราะพระชรารูปนั้น ยังคงนั่งสงบนิ่งอยู่บนก้อนเมฆเหมือนเดิม แต่คราวนี้เขาพยายามรักษาระยะห่างของเครื่องเอาไว้ เฝ้ามองพระชรารูปนั้นค่อย ๆ หายลับไปในหมู่เมฆ เมื่อนำเครื่องลงจอด เขารีบเข้าไปกราบนมัสการเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ถามท่านว่า ที่เชียงใหม่ มีพระองค์ไหนที่แสดงปาฏิหาริย์ได้ ท่านเจ้าคณะบอกว่า เห็นมีอยู่องค์หนึ่ง คือ “หลวงปู่แหวน” วัดดอยแม่ปั๋ง
ทันทีที่ทราบ เขาจึงรีบตรงไปที่วัดเพื่อพิสูจน์ให้เห็นกับตา เมื่อไปถึงก็ปรากฏว่า มีผู้คนมากมายมารอพบหลวงปู่แหวนเต็มไปหมด ปกติแล้ว หลวงปู่แหวนจะไม่ยอมออกมาพบปะใครง่าย ๆ ด้วยความที่ท่านเป็นพระที่เก็บตัวอยู่แต่ในห้องและหนีคนตามอุปนิสัยเดิม ท่านจะออกมาจากห้องก็เฉพาะเวลาฉันเช้าและเจริญพระพุทธมนต์เท่านั้น
นายทหารคนนี้ไปถึงวัดในตอนเช้า เหลือเชื่อว่าเป็นเวลาที่หลวงปู่แหวนออกจากห้องมาฉันเช้าพอดี และเมื่อเห็นท่าน นายทหารก็ถึงกับตกตะลึงซ้ำสาม เพราะหลวงปู่แหวนที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้าก็คือพระชราที่เขาเห็นนั่งอยู่บนก้อนเมฆนั่นเอง เขาจึงแหวกผู้คนเข้าไปกราบนมัสการแทบเท้าหลวงปู่แหวนด้วยความเคารพเลื่อมใส อย่างสูงสุด น้ำตาไหล ปลาบปลื้มใจตื้นตันใจ ที่ตนได้มีบุญได้พบเห็นตัวจริงของหลวงปู่แหวน
อ้างอิง : ทีนิวส์ ปัญญาญาณ “อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหารย์ที่เป็นจริง หลวงปู่แหวนวัดดอยแม่ปั๋ง”

ร่วมแสดงความคิดเห็น