วันที่ 5 เม.ย.63 รายงานข่าวแจ้งว่า สถานการณ์ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ของจังหวัดเชียงใหม่ในขณะนี้ พบว่ามีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 วัดค่าโดย “AirVisual” อยู่ที่ 344 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จัดอยู่ในโซนสีม่วง เป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชนควรงดออกจากที่พักอาศัยและงดทำกิจกรรมกลางแจ้ง ขณะเดียวกันในส่วนบรรยากาศในตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ วันนี้พบว่ามีหมอกควันและฝุ่นละอองปกคลุมหนาทึบ นอกจากนี้ทัศนวิสัยยังขมุกขมัวไม่สามารถมองในระยะไกลรวมถึงดอยสุเทพได้
ซึ่งจากสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่สูงเกินค่ามาตรฐานในระยะนี้ ยังทำให้จังหวัดเชียงใหม่ ติดอันดับ 1 ของโลก ที่มีสภาพอากาศแย่ที่สุด จากการจัดอันดับของแอปพลิเคชั่น “AirVisual”
ขณะที่วานนี้ นายคมสัน สุวรรณอำพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเพื่อสรุปสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน โดยพบว่า มีการตรวจพบจุดความร้อน หรือจุด Hotspot ในจังหวัดเชียงใหม่ มากถึงกว่า 438 จุด อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 204 จุด ป่าอนุรักษ์ 229 จุด เขต สปก. 5 จุด ซึ่งในเบื้องต้นได้มีการมอบหมายให้แต่ละอำเภอชี้แจงสาเหตุของการเกิดจุดความร้อน ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่เป็นพื้นภูเขาสูงชันยากต่อการเข้าถึง พร้อมสอบถามความต้องการในการใช้อากาศยาน โดยได้กำชับทุกอำเภอที่ไม่ต้องการอากาศยาน จัดชุดปฏิบัติการดับไฟป่าภาคพื้นดินเข้าไปดับไฟให้ดี เพราะจะมีการติดตามอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมและดำเนินคดีกับผู้ที่ลักลอบเผาป่าได้มากกว่า 359 ราย แยกเป็น สาธารณสุข 25 ราย ป่าไม้ 257 ราย จราจร 77 ราย เปรียบเทียบปรับ 91 ราย เป็นเงิน 37,300 บาท แยกเป็นสาธารณสุข 12,600 บาท ป่าไม้ 2,500 บาท จราจร 22,200 บาท ดำเนินคดี 268 ราย แยกเป็นสาธารณสุข 15 ราย ป่าไม้ 252 ราย จราจร 1 ราย คดีไม่มีตัว 240 ราย แยกเป็นสาธารณสุข 7 ราย ป่าไม้ 233 ราย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ร่วมแสดงความคิดเห็น