บูชา “เตวะบุตรโหลง” ศูนย์รวมใจของคนยอง เมืองลำพูน

ปี พ.ศ. 2348 เมืองลำพูนได้รับการจัดตั้งขึ้นมาใหม่ ภายหลังที่คนจากเมืองยองถูกกวาดต้อนมาอยู่ มีพระยาบุรีรัตน์คำฝั้น อนุชาของพระเจ้ากาวิละ มาครองเมืองเป็นองค์แรก เจ้าบุญมาน้องคนสุดท้ายของตระกูลเจ้าเจ็ดตนเป็นพระยาอุปราชเมืองลำพูน การแบ่งไพร่พลคนจากเมืองยองในการตั้งถิ่นฐานที่ลำพูนนั้น เจ้าหลวงคำฝั้นเจ้าเมืองลำพูนให้พญามหิยังคบุรี เจ้าเมืองยองและน้องอีก 3 คนตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกวงด้านทิศตะวันออกติดกับเมืองลำพูนที่บ้านเวียงยอง ให้ผู้คนที่อพยพมาจากเมืองยู้ เมืองหลวย ตั้งถิ่นฐานอยู่นอกกำแพงเมืองด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้ชุมชนเหล่านี้มีหน้าที่ทอผ้าให้กับเจ้าเมืองลำพูน
คนยองแห่งบ้านเวียงยอง จึงนับเป็นชุมชนชาวยองที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ใกล้เวียงลำพูนมากที่สุด คนยองเหล่านี้ยังคงสืบทอดวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณีของคนยองมาแต่โบราณกาล ได้แก่ การสร้างบ้านแปงเมืองอันนับเป็นการจำลองวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนยองรวมถึงการตั้งชื่อหมู่บ้านตามหมู่บ้านเดิม เช่น บ้านตอง บ้านหลุก บ้านยู้ บ้านหลวย เป็นต้น นอกจากนี้คนยองในเมืองลำพูนยังได้สร้างวัดหัวข่วง หรือ “วัดหัวข่วงนางเหลียว” ภายหลังได้เรียกมาเป็น “วัดหัวขัว” อันเปรียบเสมือนศูนย์รวมใจของคนยอง และยังเป็นสัญลักษณ์ของวัดหลวงประจำเมืองยองอีกด้วย
ดังนั้น วัดหัวข่วงนางเหลียว หรือวัดหัวขัว จึงเป็นวัดสำคัญ ดังจะเห็นได้จากมีเจ้านายเชื้อสายเมืองยองได้มาบรรพชาอุปสมบทที่วัดแห่งนี้ รวมถึงเมื่อมีเจ้านายเชื้อสายยองได้ถึงแก่อนิจกรรมลง ได้มีการนำเอาอัฐิมาบรรจุไว้ที่วัดหัวขัว นอกจากนั้นวัดหัวขัว ซึ่งถือเป็นวัดหลวงของคนยอง วัดนี้ยังมีการยึดถือปฏิบัติประเพณีความเชื่อของชาวยองที่ดูเหมือนว่าจะแตกต่างจากความเชื่อของคนเมืองลำพูน ก็คือ การตั้งศาลเทวบุตรหลวง หรือเตวะบุตรโหลง ความเชื่อในการนับถือผีของชาวยองที่มีแต่ดั้งเดิมนั้น มี 2 ชนิดคือ “ผีดี” และ “ผีร้าย” ผีร้าย หมายถึง ผีกะ ผีปอบ ซึ่งปัจจุบันหมดไปจากความเชื่อในสังคมคนยอง ส่วนผีดีนั้น ได้แก่ เตวะบุตรโหลง ซึ่งจะคอยปกป้องคุ้มคอยให้อยู่เย็นเป็นสุข
การอัญเชิญเอาองค์เทวบุตรหลวง หรือ “เตวะบุตรโหลง” จากเมืองยองมาไว้ที่วัดแห่งนี้ โดยได้สร้างเป็นหอเทวบุตรหลวงขึ้น ตามตำนานกล่าวถึงเมื่อครั้งพระยาสุลังควุฒิ ได้สร้างพระธาตุจอมยองเสร็จแล้ว ได้โปรดให้มีการเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ พระยาอินทร์ได้อาณัติให้เทวบุตร 4 ตนให้มาดูแลรักษาพระธาตุ
“ครั้นว่าบุคคลใดหรือคฤหัสถ์และนักบวชก็ดี และปมาทะอนาตระเบ่าคบยำดั่งอั้น สูท่านทั้งหลาย จู่งทำอันตรายแก่เขาฝูงนั้นเทอะ ดั่งเทวบุตรสี่ตน ตนหนึ่งชื่อ สุรัณณ ตนหนึ่งชื่อ มหิยังคะ ตนหนึ่งชื่อ ลักขณะ ตนหนึ่งชื่อว่า มังคละ..”
ครั้งที่สมัยคนยองได้เดินทางเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ในเวียงลำพูน ได้ขาดซึ่งสิ่งยึดเหนียวจิตใจในฐานะของคนที่อยู่ไกลบ้าน คนยองเหล่านี้จึงได้อัญเชิญเอาองค์เตวะบุตรโหลงจากเมืองยองมาประดิษฐานไว้ที่วัดหัวขัว และในวันที่ 16 เมษายน ของทุกปี จะมีประเพณีบูชาเตวะบุตรโหลง จัดขึ้นที่วัดหัวขัว ตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ประเพณีบูชาเตวะบุตรโหลงของชุมชนชาวบ้านเวียงยองนั้นได้กระทำสืบทอดต่อกันมานับร้อยปี
พ่อหนานชม ชมภูรักษ์ ประธานสภาวัฒนธรรมตำบลเวียงยอง เล่าถึงพิธีสักการะเตวะบุตรโหลงว่า จุดสำคัญของพิธีนี้อยู่ที่เครื่องสักการะและคำกล่าวบูชาเตวะบุตรโหลง เมื่อถึงวันที่ 16 เมษายน หรือวันปากปี ชาวบ้านเวียงยองจะตระเตรียมเครื่องสักการะหลวงขึ้น ประกอบด้วยเครื่องสักการะ 17 อย่าง อันได้แก่ มะพร้าว 1 แขนง กล้วยดิบ 1 เครือ อ้อยดำ 3 เล่ม ข้าวเปลือกและข้าวสารอย่างละ 1 ตาง เทียนขี้ผึ้งแท้หนัก 1 บาทจำนวน 4 เล่ม เทียนขี้ผึ้งเล่มเล็ก 16 เล่ม ผ้าขาวผ้าแดงอย่างละ 1 ผืน หมาก พลูและสวยดอกไม้อีก 15 สวย เบี้ย 1,300 ตัว หมากเคี้ยว 1,300 คำ และตุงสีขาวอีก 1 ตัว โดยเครื่องสักการะหลวงนี้จะตั้งไว้ในบริเวณหน้าหอเตวะบุตรโหลง ส่วนชาวบ้านก็จะนำเสื้อของแต่ละคน พร้อมด้วยสะตวงใส่ข้าวปลาโภชนา เพื่อนำเข้าร่วมในพิธีเตวะบุตรโหลง มีลักษณะเป็นเสาฐานแท่นบูชา คล้ายโดมปล่อง 4 เสา ซึ่งมีชื่อเรียกต่างกันตามชื่อของเทวบุตรชาวยอง ได้แก่ สุรณะ ปิทธิยะ ลักขณา และเทวตา ที่เมืองยองในประเทศพม่า เสาเทวบุตรหลวงนี้จะตั้งอยู่ที่ฐานพระธาตุจอมยองซึ่งเป็นพระธาตุของวัดหัวข่วงราชฐาน

การบูชาเตวะบุตรโหลงของคนยองมีความเชื่อว่า หากจะออกรบชายแดนให้บูชาเทวบุตรองค์ สุรณะ หากเป็นความขึ้นโรงขึ้นศาล คัดเลือกทหารเกณฑ์ ให้บูชาเทวบุตรองค์ ปิทธิยะ หากต้องการโชคลาภ ให้บูชาเทวบุตรองค์ ลักขณา และหากเจ็บไข้ได้ป่วย ให้บูชาเทวบุตรองค์ เทวตา
ในหนังสือ “ประวัติวัดหัวขัว” เขียนโดยพระครูสังวรญาณประยุต กล่าวถึงการบูชาศาลเตวะบุตรโหลงว่า เป็นความเชื่อที่ชาวยองให้ความนับถือมาตั้งแต่อดีต ในสมัยที่เจ้าเมืองยองอพยพมาตั้งถิ่นฐานที่บ้านเวียงยองในระยะแรกนั้นก็มีการอัญเชิญเตวะบุตรโหลงมาจากเมืองยองด้วย นอกจากนั้นแล้วในสมัยของเจ้าหลวงเมืองลำพูนทุกพระองค์จะให้ความเคารพนับถือเตวะบุตรโหลงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ก็เคยมาขึ้นขันหลวงบูชาเตวะบุตรโหลงในช่วงวันปากปี (16 เมษายน) เป็นประจำทุกปี (ในปีนี้เกิดวิกฤตโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้งดจัดงานบูชาเตวะบุตรโหลงออกไป)
บทความโดย
จักรพงษ์  คำบุญเรือง

ร่วมแสดงความคิดเห็น