จับเพิ่มอีกรายมือเผาป่า อ้างหารังผึ้ง ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

ค่ำวันที่ 6 เม.ย. 63 ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่จัน นายกมลไชย คชชา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย นายสรัชชา สุริยกุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานจาก กอ.ร.ม.น.จังหวัดเชียงราย ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ฝ่ายทหาร ตำรวจ ป่าไม้ ชุดดับไฟป่าอำเภอแม่จัน ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหามือเผาป่า ในเขตพื้นที่อำเภอแม่จัน ที่กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสธารณภัย ภายในที่ว่าการอำเภอแม่จัน

หลังจากชุดปฏิบัติการตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน ได้ออกลาดตระเวนในเขตพื้นที่เสี่ยงการเผาป่า หมู่ที่ 9 ตำบลป่าตึง เขตห้ามล่าสัตว์ป่าแม่จัน เมื่อถึงที่เกิดเหตุตรวจสอบพบผู้ต้องหากำลังดับไฟ จึงเข้าไปช่วยดับไฟสอบสวนให้การรับสารภาพว่า ได้เข้ามาตีผึ้งโดยจุดไฟและไฟได้ตกลงมาพื้นที่ป่าลุกลามไหม้พื้นที่ดังกล่าว มีกลุ่มควันไฟโพยพุ่งจึงได้ช่วยกันดับไฟ เพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่อื่น ทราบชื่อต่อมาคือ นายอาเจ เมอแลกู่ อายุ 51 ปี ชาวอาข่า บ้านเล่าสิบ ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง             จึงได้แสดงตัวเพื่อทารจับกุมพร้อมของกลาง มีจอบ เสียม มีด ถังน้ำ รถจักรยานยนต์ 1 คัน และรังผึ้งจำนวนหนึ่ง

ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2563 ได้มีการจับกุม นายสุทิวัส อานึก พร้อมของกลาง รังผึ้งป่า ไฟแช็ค จอบ มีด พื้นที่เสียหาย 10 ไร่ 37 ตารางวา คิดเป็นค่าเสียหาย 4 หมื่นกว่าบาท โดยมีผู้ร่วมจับกุมจาก หน่วยป้องกันพัฒนาป่าไม้แม่สรวย กรมป่าไม้ ผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการหมู่บ้าน บ้านทุ่งพร้าวหมู่ 7 ตำบลวาวี เพื่อดำเนินคดีตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ 2484 ม.54 บุกรุกป่า ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 ม.14 ยึดถือครอบครองเผาป่า เป็นภาพเสื่อมเสียป่าสงวนแห่งชาติ สรุปผลคดีตั้งแต่ประกาศ 60 วันห้ามเผา 22 กุมภาพันธ์ ถึง 6 เมษายน 63 จังหวัดเชียงราย จับกุมผู้ต้องหา 6 คดี ผู้ต้องหา 9 คน แจ้งความดำเนินคดี 18 คดี