ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (7 เม.ย. 63) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานนั้น มี รมว.ทุกกระทรวง เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง เนื่องจากมีหลายวาระสำคัญ เร่งด่วนต้องพิจารณาร่วมกัน ในการประชุม ครม. วันนี้ กระทรวงศึกษาธิการ ได้เสนอเพื่อรับทราบการปรับการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โดยให้สถานศึกษาเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1 จากวันที่ 16 พฤษภาคม 2563 เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม 2563
โดยกระทรวงศึกษาธิการ นำเสนอว่าจะมีการปรับวิธีการเรียนการสอน ให้สอดคล้องกับหลักสูตรที่กำหนดไว้ในแต่ละระดับการศึกษาของปีการศึกษา 2563 โดยจะมีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิด กับศูนย์บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศอฉ.19) ต่อไป
ทั้งนี้ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ย้ำว่า เผยนายกฯ เป็นห่วงเด็ก ๆ ได้ให้นโยบายเรื่องการเรียนการสอนในช่วงวิกฤตโควิด-19 เพื่อเชื่อมโยงมาตรการรับมือในอนาคต และเพื่อให้ครู มีเวลาปรับตัว อย่าไปคิดว่าจะมีวัคซีนเมื่อไหร่ เพราะการศึกษาหยุดรอไม่ได้ ต้องวางแผน โดยให้หาแนวทางที่เหมาะสมและคุ้มค่า นำระบบออนไลน์เข้ามาใช้ ไปดูว่ามีอะไรที่จำเป็นบ้าง อย่างเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์การเรียนการสอน เพื่อเตรียมให้พร้อม ย้ำการใช้งบประมาณต้องคุ้มค่า โปร่งใส มีประสิทธิภาพ สำคัญอย่าให้เป็นภาระผู้ปกครองโดยไม่จำเป็น อย่าสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน
ในสื่อสังคม ศธ.360 ของแวดวงบุคลากรทางการศึกษาและครู มีการเสนอแนะหลากหลายมุมมอง เช่น คุณวรรณา ตั้งสืบทอดวงศ์ ระบุว่าอนุบาล ประถมปีที่ 1 ออนไลน์ได้แล้วเหรอค่ะ เห็นเรียกร้องกันจังเลยที่จัดให้ ควรดูระดับวัยของเด็กด้วย พ่อแม่ บริบท ของโรงเรียนแต่ละที่มีความแตกต่างกัน โรงเรียนที่พ่อแม่มีความพร้อมก็ดีไป แต่ถ้าตาสีตาสา พ่อแม่ขาดความรู้และทุนทรัพย์ ต้องหาเช้ากินค่ำ จะต้องมานั่งเฝ้าเด็กน้อยในขณะทำกิจกรรมหรือออนไลน์ตามที่ครูสอนได้ไหม มีอินเตอร์เน็ต มีคอมพิวเตอร์ เครื่องปริ้นเตอร์ พร้อมไหมค่ะ ที่จะทำกิจกรรมร่วมกับทางโรงเรียน ให้ครูและโรงเรียนต้องตระหนักและทำให้ได้ เด็กเล็ก ๆ ยังต้องการอบรมและฝึกด้วยคุณครูที่คอยให้คำแนะนำ เปิดเทอมกรกฎาคม ไม่ทราบว่าจะมีหนทางเยียวยาน้องนักศึกษาฝึกสอนอย่างไรครับ ที่เช่าหออยู่แล้วต้องรอเปิดเทอมเลื่อนไปอีก 3 เดือน
ร่วมแสดงความคิดเห็น