ศาลลำปาง ตัดสินความผิดนักพนัน หลังถูกจับส่งดำเนินคดี ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

จากเหตุกรณีนักพนันฝ่าฝืนข้อกำหนด ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่จังหวัดลำปาง โดยเจ้าหน้าที่หน่วยงานฝ่ายความมั่นคง สามารถจับกุมฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้จำนวนหลายสิบราย ล่าสุดมีรายงานการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด โดยนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้กล่าวให้ข้อมูลว่า วานนี้ 9 เมษายน 2563 ศาลแขวงลำปาง ได้รายงานสถิติการดำเนินคดีตามพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งได้มีคำพิพากษาผู้กระทำผิดฝ่าฝืนข้อกำหนด ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดลำปาง ประกอบด้วย
1. ผู้ต้องหาฝ่าฝืนข้อกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จำนวน 8 ราย เป็นชาย 7 คน และหญิง 1 คน โดยศาลฯมีคำพิพากษาให้จำเลยมีความผิดตามฟ้องจำคุก 2 เดือน ปรับ 6,000 บาท ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตาม ป.อาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 3,000 บาท แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยกระทำความผิดมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงอาญาไว้ 1 ปี และห้ามจำเลยออกจากเคหสถานของจำเลยโดยไม่มีเหตุอันควร มีกำหนด 7 วัน ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้จำเลยกระทำความผิดในทำนองเดียวกันอีก ตาม ป.อาญามาตรา 56 หากไม่สามารถชำระค่าปรับได้ภายใน 30 วัน ให้ดำเนินการตาม ป.อาญามาตรา 29 และมาตรา 30
2. ในคดีร่วมกันลอบเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนข้อกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จากกรณีเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา ทางจังหวัดลำปางได้สนธิกำลังกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้าปิดล้อมสถานบริการไม่ทราบชื่อ ซึ่งได้เปิดทำการเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟบังหน้า ตั้งอยู่ในเขตท้องที่บ้านหัวทุ่งสามัคคี ตำบลพระบาท อำเภอเมืองลำปาง โดยพบว่าสถานบริการได้มีการแอบลักลอบกระทำการมั่วสุมเปิดบ่อนเล่นการพนัน และเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนักพนันไว้ได้รวมทั้งสิ้น 23 ราย พร้อมมีการนำตัวส่งดำเนินคคีตามกฎหมายนั้น ศาลฯจึงมีคำพิพากษาแยกเป็น 2 กลุ่มความผิดดังนี้
2.1 ความผิดฐานร่วมกันเล่นการพนันไฮโล เอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนข้อกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยจำเลยที่ 1 เป็นหญิงอายุ 47 ปี รับเป็นเจ้ามือผู้จัดเล่นการพนันพร้อมกับพวกรวมจำนวน 13 คน แบ่งเป็น ชาย 7 คน หญิง 6 คน จำเลยทั้ง 13 คน มีความผิดตามฟ้องแต่ให้การรับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งตาม ป.อาญามาตรา 87 โดยให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานเป็นเจ้ามือผู้จัด จำคุก 1 เดือน ปรับ 1,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 2-13 ฐานเป็นผู้ร่วมเข้าเล่น ปรับ 1,000 บาท ฐานฝ่าฝืนพระราชกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จำคุกคนละ 3 เดือน ปรับคนละ 5,000 บาท โดยโทษจำคุกจำเลยทั้ง 13 คน ให้รอการลงอาญาไว้ 1 ปี ตาม ป.อาญามาตรา 56 และห้ามจำเลยทั้ง 13 คน ออกนอกเคหสถาน ยกเว้นแต่มีเหตุอันควร หากไม่สามารถชำระค่าปรับได้ภายใน 30 วัน ให้ดำเนินการตาม ป.อาญามาตรา 29 และมาตรา 30
2.2 ความผิดฐานร่วมกันเล่นการพนันไพ่ผสมสิบ พนันเอาทรัพย์กันโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนข้อกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งจำเลยเป็นหญิงอายุ 44 ปี กับพวกรวม 10 คน แบ่งเป็นชาย 2 คน อายุ 35 และ 56 ปี เป็นหญิง 8 คน อายุระหว่าง 44 – 63 ปี โดยจำเลยทั้ง 10 คน มีความผิดตามฟ้อง เป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างวาระกัน ให้เรียงกระทงลงโทษตาม ป.อาญามาตรา 91 จำเลยรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง ฐานร่วมกันเล่นการพนันปรับคนละ 800 บาท ฐานฝ่าฝืนข้อกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จำคุกคนละ 3 เดือน ปรับคนละ 5,000 บาท เฉพาะจำเลยที่ 10 ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน โทษจำคุก 3 เดือน และปรับ 5,000 บาท โดยโทษจำคุกจำเลยทั้ง 10 คน ให้รอการลงอาญาไว้ 1 ปี และห้ามออกจากเคหสถาน 7 วัน เว้นแต่มีเหตุอันควร ทั้งนี้ให้จำเลยที่ 10 รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง ภายในระยะเวลารอการลงโทษ ทำงานบริการสังคม 12 ชั่วโมง หากไม่สามารถชำระค่าปรับได้ภายในเวลากำหนดให้ดำเนินการตาม ป.อาญามาตรา 29 และมาตรา 30
ในโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้มอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง ดำเนินการติดตามผู้กระทำผิดทุกราย แยกการกักกัน หรือ ควบคุมไว้เพื่อสังเกตอาการ 14 วัน ตามกฎหมายพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 34 ด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น