จ.แพร่ ขานรับแนวทางปฏิบัติในเทศกาลงานประเพณี พิธีศาสนา ยุคโรคโควิด-19 ระบาด

นางกานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรมมีประกาศแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับเทศกาลประเพณี พิธีทางศาสนา และวิธีการต่างๆ กรณีการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อเป็นการควบคุมมิให้มีการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวและเป็นแนวทางการปฏิบัติในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในสถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

สืบเนื่องจากขณะนี้มีการระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในทุกทวีปทั่วโลก และมีผู้ติดเชื้อในประเทศไทยจำนวนเพิ่มสูงขึ้น กระทรวงวัฒนธรรมจึงเห็นว่าการจัดกิจกรรมเทศกาลประเพณีทางศาสนา และพิธีกรรมต่างๆ เป็นกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนหมู่มากอาจเกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมมิให้มีการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว จึงกำหนดให้มีแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับเทศกาลประเพณี พิธีทางศาสนา และพิธีกรรมต่างๆ กรณีการแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 คือ งด หรือเลื่อนการจัดกิจการเทศกาลประเพณี พิธีทางศาสนาและพิธีกรรมต่างๆ การรวมตัวของคนจำนวนมาก กรณีที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดไม่สามารถงดหรือเลื่อนการจัดงานนั้นๆ ได้ ให้ปฏิบัติตามดังนี้ ให้ปฏิบัติโดยไม่ขัดต่อประกาศคำสั่งและข้อกำหนด ประกาศคำสั่งและข้อกำหนดที่ออกตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 พร้อมทั้งมาตรการที่รัฐบาลและศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กำหนดประกาศหรือคำสั่งที่ออกโดยหน่วยงานที่รัฐภาครัฐที่เกี่ยวข้องประกาศหรือคำสั่งที่ออกโดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด
แนวทางการปฏิบัติ เกี่ยวกับผู้จัดงานต้องแจ้งเจ้าพนักงานหรือหน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคระดับหมู่บ้าน หรือชุมชนที่ผู้ว่าราชการกำหนด ต้องระบุข้อความบัตรเชิญร่วมงานว่าให้สวมหน้ากากอนามัยรวมทั้งนำบัตรประชาชนหรือบัตรที่ทางราชการออกให้มาด้วย และหากมีอาการป่วยเป็นไข้ ไอ ให้งดการเข้าร่วมงานโดยเด็ดขาด ต้องจัดให้มีจุดคัดกรองและตรวจวัดไข้ผู้เข้าร่วมงาน หากตรวจพบผู้ที่มีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศาเซลเซียส แนะนำให้ไปพบแพทย์โดยทันที

ต้องจัดให้มีการลงทะเบียนหรือบันทึกชื่อนาม-สกุล ที่อยู่หมายเลขโทรศัพท์พร้อมทั้งบันทึกภาพผู้ที่ร่วมงานเพื่อประโยชน์ในการติดตามและเฝ้าระวังโรคในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จากงานดังกล่าวต้องจัดให้มีแอลกอฮอล์เจล บริเวณจุดทางเข้างาน ตลอดจนตามจุดต่าง ๆ รอบบริเวณงาน และสำรองหน้ากากอนามัยไว้ให้บริการ ต้องทำความสะอาดอุปกรณ์และพื้นที่บริเวณจัดงาน ที่มีผู้เข้าร่วมงานสัมผัส หรือใช้ร่วมกันเป็นจำนวนมาก รวมทั้งพื้นที่โดยรอบการจัดงาน เช่น ราวบันได ลูกบิดประตูห้องสุขา ต้องใช้ระยะเวลาในการจัดงานให้สั้นที่สุด รีบแจ้งจัดส่งรายชื่อผู้เข้าร่วมงานทั้งหมดต่อกระทรวงสาธารณสุขทันที งดจัดงานเลี้ยงทุกประเภท งดจัดให้มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดการแสดงดนตรีมหรสพ หรือเต้นรำทุกชนิด
สำหรับผู้ร่วมงานต้องแต่งกายให้มิดชิด เตรียมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากากอนามัยแอลกอฮอล์เจล โดยต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่งาน เว้นระยะห่างการนั่งหรือยืนระหว่างบุคคลไม่น้อยกว่า 2 เมตร ต้องปฏิบัติตามหลักสุขอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ด้วยแอลกอฮอล์หรือด้วยน้ำสะอาดและสบู่เหลว ทำความสะอาดมือทันทีหลังออกจากงาน รวมทั้งทำความสะอาดอุปกรณ์สื่อสารของใช้ส่วนตัวที่พกติดตัวมา เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็ปเล็ต เป็นต้น อาบน้ำชำระร่างกายและเปลี่ยนเครื่องแต่งกายทันทีเมื่อกลับถึงที่พัก งดเข้าร่วมงานหากมีอาการป่วย เช่น ตัวร้อน ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ปวดเนื้อ ปวดตัว หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบากให้รีบพบแพทย์ งดเข้าร่วมงานหากตนเองเดินทางกลับจากต่างประเทศยังไม่ครบ 14 วัน หรือกลับจากต่างจังหวัดไม่ครบ 14 วัน ไม่ใกล้ชิดกับผู้ร่วมงานอื่นที่ไม่มีการป้องกันตนเองหรือมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ เช่น ไม่สวมหน้ากากอนามัยมีอาการไอ จาม

ทั้งนี้ ให้ผู้จัดงานศึกษาแนวทางการปฏิบัติเป็นการเฉพาะ อาทิ งานมงคลสมรส งานพิธีการศพ วันสำคัญทางศาสนา หรืองานบุญเทศกาลไหว้บรรพบุรุษ เทศกาลประเพณีสงกรานต์ ขอให้ศึกษาและถือปฏิบัติของประกาศของกระทรวงวัฒนธรรมอย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะประเพณีสงกรานต์ การจัดงานประเพณีสงกรานต์ทุกระดับงดเว้นการเดินทางกลับภูมิลำเนา หากต้องรดน้ำขอพรผู้ใหญ่หรือแสดงความกตัญญูกตเวที แสดงความปรารถนาดีต่อกันเนื่องในโอกาสประเพณีสงกรานต์ควรใช้สื่อสารผ่านทางโทรศัพท์ หรือช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ งดการเข้าร่วมกิจกรรมที่มีความรวมตัวกันของหมู่คนเป็นจำนวนมาก หรือเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงต่อการระบาดของโรคโดยเด็ดขาด เพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์ให้ปฏิบัติเฉพาะภายในครอบครัวเท่านั้น โดยมีกิจกรรม เช่น สรงน้ำพระพุทธรูปที่บ้าน รดน้ำขอพรผู้ใหญ่ที่บ้าน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของญาติผู้ใหญ่ที่สูงอายุ และทำความสะอาดบ้านเรือนโดยสมาชิกในครอบครัวทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ร่วมแสดงความคิดเห็น