บรรยายพิเศษออนไลน์ ม.ล. ปนัดดา ดิศกุล อดีต ผวจ.นครปฐม, เชียงใหม่

ว่าด้วยเรื่องกำนันผู้ใหญ่บ้าน “คุณยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย ซึ่งรู้จักกันตั้งแต่วิทยากรยังรับราชการ พูดเมื่อ 2-3 วันมานี้เกี่ยวกับเรื่องเงินจำนวนห้าพันบาทเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาด เช่นเดียวกับผู้ได้รับผลกระทบรายอื่นๆ นายกสมาคมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทยกล่าวด้วยว่า การขอรับเงินเยียวยาช่วยเหลือห้าพันบาทดังกล่าวนั้น ก็ต่อเมื่อทางราชการมีงบประมาณเหลือจากการจัดซื้ออุปกรณ์และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทางการแพทย์แล้วเท่านั้น”
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล อดีตผู้ว่าราชการนครปฐม และจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต่อไปว่า “สถาบันกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ถือเป็นสถาบันอันได้รับพระราชทานกำเนิดขึ้นจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระปิยมหาราชของปวงชนชาวไทย ถือเป็นสถาบันพระราชทานที่ดำรงอยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านานตราบจนปัจจุบัน จริงอย่างที่นายกสมาคมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านฯ กล่าวไว้ คือ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านเปรียบเสมือนเป็นแนวหน้าในระดับพื้นที่และปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยทุกภาคส่วนราชการภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทยมาตั้งแต่เมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงเป็นองค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย บทบาทและหน้าที่ของพี่น้องกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านจึงถือเป็นผู้แทนของส่วนราชการในระดับท้องที่ถึงระดับภูมิภาค ต่างจากกรุงเทพฯ ซึ่งไม่ใช่จังหวัดและไม่ใช่การบริหารราชการส่วนภูมิภาค กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านจึงถือเป็นผู้ที่มีความใกล้ชิดกับราษฎรตั้งแต่ระดับหมู่บ้านและตำบลในการปฏิบัติงานตามกฎหมายและแนวนโยบายแห่งรัฐ กับอีกทั้งเป็นผู้ช่วยเหลือนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ และเป็นผู้ช่วยประสานงานระหว่างราชการส่วนภูมิภาคกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพประสิทธิผล ถือเป็นผู้ปฏิบัติงานที่อยู่ในระดับล่างสุดของรัฐ และอยู่ใกล้ชิดกับประชาชน ในกรณีเหตุการณ์โรคระบาดครั้งต่างๆ รวมทั้งครั้งนี้ ก็ได้กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ออกสำรวจตรวจตราจากชุมชนที่เล็กที่สุดในทุกๆ พื้นที่ในทั้ง 76 จังหวัด เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายภูมิลำเนา การกลับคืนสู่ท้องที่ และพฤติกรรมที่ชวนสงสัยว่าป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บใดๆ ยามนี้ แล้วสรุปรายงานต่ออำเภอและจังหวัดตามลำดับชั้น เพื่อให้เหตุการณ์จากหนักกลายเป็นเบา และได้รับทราบข้อมูลข่าวสารที่เป็นรูปธรรมที่สุด จึงมิเป็นการอันควรเลยที่ใครผู้ใดจะออกมาว่ากล่าวหรือหักหาญน้ำใจคนไทยด้วยกันเองในเวลาเช่นนี้ แต่ควรยึดหลักการว่าด้วยเหตุและผล และตั้งมั่นในพระปฐมบรมราชโองการสืบสานรักษาและต่อยอดตามพระราชปณิธาน รู้-รัก-สามัคคี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ชาติบ้านเมืองสามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์ในช่วงนี้ไปให้ได้”

ร่วมแสดงความคิดเห็น