ช่วงรอพ้นสถานการณ์​โควิด-19 มาติดตาม​ผลงานเด็กเทพศิรินทร์ เชียงใหม่

ชั่วโมงนี้หากพูดถึงทีมฟุตบอลขาสั้นระดับภูธร แน่นอนว่าเทพศิรินทร์ เชียงใหม่ ชื่อนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ทีมนี้ได้ก้าวผ่านคำว่าทีมน้องใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้ยกระดับขึ้นมาเทียบชั้นกับทีมชั้นนำของเชียงใหม่ได้แล้วทุกทีม โดยใช้เวลาเพียงไม่นาน จากการผลักดันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

หากลองมองย้อนไปเมื่อสิบปีที่แล้ว เทพศิรินทร์ เชียงใหม่ ชื่อนี้ใครได้ยินคงไม่คุ้นหูมากนัก เพราะเป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่พึ่งถูกเปลี่ยนชื่อมาจากโรงเรียนน้ำบ่อหลวงวิทยาคมได้ไม่นาน เนื่องด้วยโรงเรียนมีนักเรียนจำนวนน้อยจึงทำให้ทั้งโรงเรียนรวมทีมฟุตบอลกันได้เพียง 1 ทีม เท่านั้น แต่ทีมเล็ก ๆ ทีมนี้แหละที่หักปากกาเซียนมาแล้วหลายต่อหลายหน ทันทีที่ได้รับการเปลี่ยนชื่อโรงเรียนก็ได้รับน้ำเลี้ยงจากสมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ ภาคเหนือ ทันที โดยสมาคมฯ นั้นได้หากโค้ชที่มีฝืมืออย่าง พศิณ กีรติบุณณ์ เข้ามาเป็นผู้ฝึกสอน สามารถพาทีมคว้าแชมป์รายการใหญ่ๆ ของเชียงใหม่ในสมัยนั้นได้หลายรายการ เช่น ไพรม์มินิสเตอร์ คัพ, นทพ.คัพ ครั้งที่ 3 และสร้างนักเตะที่มีชื่อเสียงระดับประเทศมาแล้ว อย่าง ธนาสิทธิ์ ศิริผลา, ชัยวัฒน์ บุราณ และสุวรรณภัทร กิ่งแก้ว เป็นต้น

แต่ก็น่าเสียดายในเวลานั้นโรงเรียนที่กำลังมีชื่อเสียงเฉิดฉายในวงการฟุตบอลภูธรได้หายไปดื้อ ๆ ทุกสิ่งที่สร้างมาในระยะเวลาเกือบ 3 ปีหยุดชะงักไป จนกระทั่งการเข้ามาของ ผู้อำนวยการท่านใหม่คือ
ดร.ชวินทร์ณวัฒน์ ณ ลำพูน ได้เล็งเห็นถึงจุดแข็งของโรงเรียนในจุดนี้ จึงได้คิดจุดไฟให้กลับมาติดอีกครั้ง โดยไปดึงเอากุนซือคนเก่ากลับมาทำทีมอีกคำรบ โค้ชพศิณ เองที่ดูเคมีจะเข้ากันกับ ผอ.ท่านนี้ จึงตอบตกลงและกล่าวด้วยว่า “กลับมาครั้งนี้ ทำทีมไม่ได้ดีกว่าครั้งที่แล้วจะไม่หันหลังกลับ”

เริ่มแรกในช่วงทำทีมค่อนข้างลำบากเพราะต้องหานักกีฬาใหม่ทั้งหมด แต่ด้วยชื่อเสียงของโค้ชและประสบการณ์ที่มี ทำให้ได้นักกีฬามาพอสมควร บวกกับการทำทีมฟุตบอลสมัยใหม่ที่คราวนี้ไม่ได้ทำทีมด้วยตัวเอง มีโค้ชประจำรุ่นอายุแบ่งหน้าที่กันทำงานอย่างเป็นระบบ ทำให้การทำทีมในครั้งนี้ง่ายขึ้นและเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนชั้นไปเล่นถ้วย ข. ฟุตบอลกรมพล แชมป์ฟุตบอล AIA คัพ และรายการอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งยังมีนักเรียนที่ได้โกอินเตอร์อีกหลายรายเช่น บริบูรณ์ น้อยศรี ที่ได้เป็นนักเรียนโครงการ Fox Hunt ปีที่ 3 ไปเรียนที่ประเทศอังกฤษ 2 ปี, มิณธฎา เผ่าดำรงค์, กิตติกร แสนกิ่ง ได้ไปฝึกฟุตบอลที่ประเทศญี่ปุ่น 2 เดือน เป็นต้น

จากสถิติผลงานในช่วง 4 ปี ที่ผ่านมาของโรงเรียนเทพศิรินทร์ เชียงใหม่ สามารถพัฒนานักกีฬาฟุตบอล ขึ้นตามลำดับ ทั้งในแง่ของความเป็นเลิศ และทั้งในแง่ของการเปิดโอกาสให้นักฟุตบอลของโรงเรียนได้มีโอกาสได้แสดงความสามารถอย่างทั่วถึงโรงเรียนได้ส่งนักเรียนฟุตบอลเข้าร่วมการแข่งขันเกือบทุกรายการทั้งในระดับจังหวัด ระดับภูมิภูมิภาค และระดับประเทศ นอกจากความเป็นเลิศแล้ว ยังส่งไปแข่ง เพื่อต้องการให้นักเรียนฟุตบอลทั้ง 250 คน ได้มีประสบการณ์การแข่งขันอย่างทั่วถึง

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในรายการต่างๆ เป็นเพียงบททดสอบเท่านั้น สิ่งที่โรงเรียนได้ดำเนินการประจำวัน เป็นกระบวนการที่สำคัญที่จะพัฒนาศักยภาพของนักเรียนหลายๆ ด้าน ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคมนักเรียนฟุตบอลเป็นนักเรียนพักนอนในโรงเรียน โดยมีครู ทีมโค๊ช เป็นผู้ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ต้องมีกฎระเบียบข้อบังคับ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการดูแลปกครองและพัฒนาโดยกำหนด ให้นักฟุตบอลฝึกซ้อมตั้งแต่ 16.30-19.00 น. ตั้งแต่วันจันทร์-วันศุกร์ ส่วนวันเสาร์กำหนดให้นักฟุตบอลบำเพ็ญประโยชน์ เช่น พัฒนาในโรงเรียนทำความสะอาดหอพัก งานจิตอาสาที่ได้รับการร้องขอ ส่วนอาทิตย์กำหนดให้นักเรียนทำการบ้าน เรียนซ่อมเสริมและทำภารกิจส่วนตัว

โรงเรียนมีความภาคภูมิใจที่ได้ดำเนินโครงการนักเรียนฟุตบอลสู่อาชีพ เพราะนอกจากในด้านกีฬาฟุตบอลแล้ว นักเรียนฟุตบอลทุกคนยังมีผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจนักเรียนจบตามหลักสูตรสถานศึกษาทุกคน และนักเรียนผู้ที่จบ ม.6 ยังสามารถสอบเรียนต่อได้ทุกคน ส่วนนักเรียนบางคน อาจจะไม่ได้ไปสายตรงทางด้านฟุตบอล แต่ก็ยังสามารถสอบเข้าในสถาบันอุดมศึกษาในสายวิศวะหรือด้านอื่นๆ ด้วยความใส่ใจตั้งแต่ผู้บริหาร โรงเรียนไปจนถึงครูและ staff coach ทุกคน

ภาพที่เห็นทุกวันของนักฟุตบอลคือ เวลา 16.30 น. ทุกวันวันจันทร์-วันศุกร์ นักเรียนจะมารอเช็คชื่อลงซ้อมข้างสนามกับโค็ชในแต่ละรุ่น แล้วลงซ้อมถึงเวลา 19.00 น. หลังจากนั้นนักเรียนก็พักผ่อนตามอัธยาศัย อาบน้ำรับประทานอาหาร ประชุมเก็บโทรศัพท์สวดมนต์ เข้านอน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จึงทำให้เป็นที่อุ่นใจสำหรับผู้ปกครองเพราะนักเรียน ส่วนใหญ่จะอยู่หอพักห้องเรียน สนาม ไม่มีโอกาสไปเกเรที่อื่น

แม้ตลอดปี 2019/2020 ที่ผ่านมา ผลการแข่งขันของโรงเรียนจะสำเร็จหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจมากนัก ฉะนั้นทางโรงเรียนจึงตั้งเป้าหมายที่นำพานักฟุตบอล ให้นำชัยชนะ มาสู่ลูกรำเพยล้านนา ในปี 2020/2021 ที่จะถึงนี้ เช่น ฟุตบอลกรมพลศึกษาทุกรุ่นอายุ ต้องเลื่อนสู่ ประเภท ก แชมป์ฟุตบอลนักเรียนนักศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติ (ไทยแลนท์ยูธลีก) ในรุ่นอายุ 12, 14, 16 และ 18 ปี ในนามสโมสรแม่โจ้ยูไนเต็ด แชมป์ฟุตบอลไพร์นิมิสเตอร์ แชมป์ฟุตบอล King Power คัพ และแชมป์ฟุตบอลเอไอเอ

และสิ่งที่ทางโรงเรียน​เทพศิ​รินทร์​ เชียงใหม่​ ได้ตั้งเป้าหมาย​การพัฒนาระบบ​การจัดการฝึกซ้อม​ การแข่งขัน​ และสนามฟุตบอล​ของโรงเรีย​น​ในอนาคต​ ประกอบด้วย​
1. สนามหญ้าเทียม
2. ระบบไฟฟ้าแสงสว่างสนามฟุตบอล
3. อัฒจันทร์ที่มีห้องพักนักกีฬาห้องผู้ตัดสินและห้องน้ำ
4. จัดหอพักนอน นักเรียนฟุตบอล เพิ่ม​เติม และบ้านพักผู้ปกครอง​ที่มาเยี่ยม​เยือน
และ 5. ห้องฟิตเนส​ และสิ่งอำนวยความสะดวก​อื่น​ๆ​ที่เกี่ยว​ข้องทางโรงเรียน​เทพศิ​รินทร์​ เชียงใหม่​ ได้ตั้งงบประมาณ​ประจำปี​เพื่อทยอยจัดสร้าง ในโอกาส​นี้จึงขอเชิญชวน​ทุกท่าน​ร่วม​ที่สนใจ​เป็นผู้สนับสนุน​งบประมาณ​ฯ อย่างเป็นทางการ​ (ใบอนุโมทนา​บุญ​สามารถ​ยื่นลดหย่อน​ภาษี​ได้​ 2​ เท่า)​ แจ้งความ​ประสงค์​ได้​โดยตรง​กับ ดร.ชวิ​นทร์​ณวัฒน์​ ณ​ ลำพูน​ ผู้​อำนวยการ​โรงเรียน​เทพ​ศิ​รินทร์​ เชียงใหม่​ เ​บอ​ร์โทรศัพท์​ 0616145269​ หวังเป็น​อย่างยิ่ง​ว่า​จะ​ได้รับการสนับสนุน​จากทุกท่าน​ทุกภาคส่วน​ อันจะเป็นการพัฒนา​เยาวชน​ของชาติ​ด้วย​กีฬา​ฟุตบอล​ พร้อมระเบียบ​วินัย​ และที่สำคัญ​ที่สุด​ที่โรงเรียน​เน้นเป็นอย่างยิ่งคือ นักฟุตบอล​ต้องตั้งใจ​เรียน​ ตั้งใจ​ซ้อม พร้อม​สู่สนามแข่งขัน​ทุกเมื่อ เพื่อความชัยชนะ​ของทีมและอนาคต​ของนักเรียนฟุตบอล​ทุกคน​ที่จะก้าว​สู่​การเป็น นักฟุตบอล​อาชีพ​ หรือประกอบอาชีพ​ ที่เกี่ยวข้อง​กับวงการกีฬา​ ได้อย่างมีคุณภาพ​ในอนาคต​ต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น