หลังจากโควิด-19 มาทำให้การแข่งขันฟุตบอลทุกรายการหยุด สนามปิด ทำให้ผู้ตัดสินฟุตบอล ก็ต้องกลายมาเป็นผู้ว่างงาน ไม่มีแมต์ซที่จะเปา บางคนมีหน้าที่การงานทำก็รอดตัวไป แต่คนที่ทำหน้าที่ตัดสินอย่างเดียว ก็ต้องเหนื่อย จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จะคลี่คลาย สนามกีฬาเปิดให้ใช้ ในการแข่งขัน และฟุตบอลไทยลีกไทยเริ่มทำการแข่งขัน
ปัญหาการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส “โควิด-19” สร้างผลกระทบไปทั่ววงการนักเตะ และผู้ที่ทำหน้าที่ตัดสิน ฟุตบอลไทย แต่กับวงการผู้ตัดสินดูเหมือน จะโดนหนักกว่านักฟุตบอลอาชีพ โดยเฉพาะ 5 ประเด็น ที่น่าสนใจกับวิกฤต “โควิด-19” ที่เกิดขึ้น
1. นักเตะอาชีพ ยังได้เงินเดือน แม้จะโดนลดเงินเดือน 50 % จากวิกฤตโควิด-19 แต่กับผู้ตัดสินนี่ลำบากเลย เมื่อฟุตบอลไม่ได้แข่ง ผู้ตัดสินไม่มีแมตช์เปา ไม่มีแมตช์ทำหน้าที่ ไม่ได้เงินค่าตัดสินอยู่แล้ว พวกมีงานประจำก็โอเคหน่อย พอถู ๆ ไถ ๆ ไปได้ แต่ถ้าประเภทผู้ตัดสินเพียว ๆ อันนี้ลำบากอยู่
2. นักเตะอาชีพ ยังมีการเก็บตัว ฝึกซ้อมอยู่บ้าง คลุกคลีกับเกมไม่เป็นทางการอยู่บ้าง แต่กับผู้ตัดสินนี่ได้แต่ออกกำลังกายอยู่บ้าน บ้านใคร บ้านมัน ไม่ได้คลุกคลีกับฟุตบอลจริง ๆ จัง ๆ ประสิทธิภาพในการทำหน้าที่ อาจจะลดลงหรือไม่หากถึงเวลาคัมแบ็คกลับมา
3. นักเตะอาชีพ แม้จะต้องเว้นวรรคจากเกมลีก ราว 4 เดือนครึ่ง แต่ตอนนี้ก็มีเวลาที่คิดว่าจะต่อสัญญา, ยกเลิก, แยกทาง เพื่อเตรียมหาสังกัดใหม่ ก่อนลีกจะเปิดอีกทีในเดือน ก.ย. 63 หรือไม่ เพราะ ส.บอลฯ กำหนดไว้ว่า ก่อนลีกเปิด จะมีการเปิดตลาดซื้อขาย-เพิ่มชื่อ-ขึ้นทะเบียน เป็นอีกหนึ่งช่องทางของนักเตะ แต่ผู้ตัดสินไม่มี ผู้ตัดสินได้แต่ลุ้นว่า เปิดมาอีกที จะมีชื่อลงทำหน้าที่เลยไหม แล้วเงินค่าทำหน้าที่เดือน ก.ย. ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะไปตกผลึกอยู่ที่เดือนไหน
4. นักเตะอาชีพ ยังสามารถให้ข่าวได้ เป็นข่าวได้ กรณีเดือดร้อนจริง ๆ จากวิกฤตโควิด-19 แต่กับผู้ตัดสินคงไม่ใช่ เพราะองค์กรที่ดูแลบริหารผู้ตัดสิน สั่งกำชับชัดเจน ห้ามผู้ตัดสินให้ข่าวกับสื่อ เนื่องจากเป็นมาตรการและนโยบายหลักของคณะกรรมการฯ
และ 5. นักเตะอาชีพ ยังพอมีช่องทางขยับขยายในช่วงวิกฤตโควิด-19 กับการหาอาชีพเสริมทำ ไม่ใช่ว่าผู้ตัดสินจะทำไม่ได้ จริง ๆ ก็ทำได้แหละ แต่ช่องทางมันไม่กว้างเหมือนนักฟุตบอลอาชีพ เผลอ ๆ การเลือกเปลี่ยนอาชีพ แขวนนกหวีดจากการเป็นผู้ตัดสิน เพื่อไปทำอาชีพอื่นแบบเป็นจริงเป็นจัง น่าจะทำให้รอดจากวิกฤตโควิด-19 ได้มากกว่าที่จะไปเก้ ๆ กัง ๆ อยู่แบบนี้ แต่เชื่อว่าผู้นำองค์กรที่ดูแลบริหารผู้ตัดสินไทย น่าจะพอมีทางช่วยเหลืออยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย
ร่วมแสดงความคิดเห็น