พระสงฆ์และจิตอาสา รวมพลังปลูกพืชผักสวนครัวไว้กินเอง สู้ภัยไวรัสโควิด19

ผู้สื่อข่าวรายงานมาจาก จ.แพร่เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 เมษษยน 2563 ที่บริเวณวัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง มีการรวมพลังของพระภิกษุ สามเณร พร้อมจิตอาสาวัดพระธาตุช่อแฮฯ โดยการนำของพระโกศัยเจติยารักษ์ รองเจ้าคณะ จ.แพร่ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง พระครูโกศลพิพัฒนคุณ เจ้าคณะอ.สูงเม่น และกลุ่มสตรี 20 หมู่บ้านใน อ.เมืองแพร่ โดยการนำของนางอัมราพร มุ้งทอง นายกสมาคมผู้นำสตรีพัฒนาชมชนจ.แพร่ ร่วมกับพัฒนาชุมชนจ.แพร่ ได้รวมกันปลูกพืชผักสวนครัวที่ใช้น้ำน้อย ในแปลงผักข้างกำแพงวัด จำนวน 37 ช่องๆละ 3.70 เมตร รวมพื้นที่ปลูกพืชผักสวนครัว 136.9 พร้อมกันนี้พระโกศัยเจติยารักษ์ มอบมาม่า จำนวน 1,440 ห่อ น้ำดื่ม 600 ขวด ผ่านนางกานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการ จ.แพร่ และนายวรญาณ บุญณราช รองผู้ว่าราชการจ.แพร่ เพื่อนำไปมอบกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา2019 อีกด้วย

พระโกศัยเจติยารักษ์ เจริญพรว่า ตามที่เกิดภาวการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019ไปทั่วนั้น วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง ซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของ จ.แพร่ เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาล และเป็นวัดท่องเที่ยวที่สำคัญของ จ.แพร่ ทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนมากราบไหว้ ทำบุญเป็นจำนวนมาก แต่มาบัดนี้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา2019 ทำให้ทุกคนหยุดอยู่กับบ้าน จึงไม่มีนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนมากราบไหว้ที่วัด ส่งผลกระทบกับวัดและพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าบริเวณวัด เพราะขาดรายได้ที่เกิดจากการท่องเที่ยว ทางวัดจึงคิดปลูกพืชผักสวนครัวบนพื้นที่ของวัด เพื่อนำมาเป็นอาหารให้พระภิกษุ สามณเณร ตลอดจนพุทธศาสนิกชน ได้นำมาปรุงเป็นอาหาร ลดรายจ่าย โดยได้รับความร่วมมือจากสมาคมผู้นำสตรีพัฒนาชมชนจ.แพร่ นำโดยนางอัมราพร มุ้งทอง นายกสมาคมนำสตรี อ.เมืองแพร่ 20 ตำบล และสนง.พัฒนาชุมชน จ.แพร่

นำกล้าผัก เช่น ผักบุ้ง ผักกาด ถั่วฝักยาว ขิง ข่า พริก ตะไคร้ กระเพราะ โหรพา มะเขือ ผักชี ผักคะน้าเม็กซิโก ฯลฯมาปลูก เนื่องจากช่วงนี้อากาศร้อนและแห้งแล้ง ทางวัดได้ทำหลังคามุงพืชผัก และใช้น้ำบ่อในวัดในระบบสปริงเกอร์รดน้ำพืชผัก ในการนี้พระครูโกศลพิพัฒนคุณ เจ้าคณะอ.สูงเม่น และนายวรญาณ บุญณราช รองผู้ว่าราชการจ.แพร่ ร่วมปลูกด้วย คาดว่าอีกประมาณ 1 เดือนพืชผักสวนครัวที่ปลูกคงนำมาปรุงเป็นอาหารให้กับพระภิกษุ สามเณร ตลอดจนพุทธศาสนิกชนต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น