(มีคลิป) จบด้วยดี ด.ต.สะพายปืน สำนึกผิด ขอโทษสังคม หลังปรากฎคลิปว่อนโซเชียล พร้อมเจรจาคู่กรณีจนเข้าใจ

วันที่ 25 เม.ย. 63 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ได้มีสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ใน จ.เชียงใหม่ ได้โพสต์คลิปวีดีโอ เหตุการณ์ที่มีชายหนุ่มคนหนึ่งตัดผมเกรียน พร้อมสะพายอาวุธปืนยืนอยู่ข้างกระจกรถยนต์ฝั่งคนขับ ที่มีผู้ชายขับอยู่และมีปากเสียงกัน โดยชายคนที่สะพายปืนอ้างว่าเป็นตำรวจ ซึ่งหลังจากโต้เถียงกันสักครู่หนึ่ง ผู้ชายคนที่สะพายปืนอยู่ได้เดินกลับไปขึ้นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน กห-5296 เชียงใหม่ ที่จอดอยู่ด้านหน้าแล้วขับออกไป ทั้งนี้โพสต์ดังกล่าวมีผู้เข้าไปแสดงความเห็น และแชร์ต่อจำนวนมาก ส่วนใหญ่ตำหนิพฤติกรรมของผู้ชายที่สะพายปืน และอยากให้มีการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เรื่องการพกพาอาวุธปืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอยากให้มีการตรวจสอบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่

โดยต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง ผู้โพสต์เรื่องราวดังกล่าว จตกระทั่งทราบข้อมูลว่า เจ้าตัวมีอาชีพขับรถสี่ล้อแดงรับจ้าง โดยในวันเกิดเหตุเป็นช่วงเย็นของวานนี้ (24 เม.ย. 63) โดยตนได้ขับขี่รถสี่ล้อแดง เพื่อที่จะกลับบ้านมีลูกน้อยนอนหลับอยู่ในรถด้วย ระหว่างที่ขับมาตามทางถนนวงแหวนรอบสอง จะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบทางรถไฟไปทางลำพูน จังหวะนั้นรถคู่กรณีขับมาจากทางขวาผ่านหน้าไป จากนั้นรถสี่ล้อแดงได้ขับตามหลังไปตามปกติ แต่อยู่ ๆ ทางรถเก๋งได้จอดและเกิดเหตุตามคลิปดังกล่าว โดยยืนยันว่าไม่มีการกระทบกระทั่ง หรือการขับปาดหน้ากันแต่อย่างใด

ทั้งนี้ในเวลาต่อมา หลังเกิดมีคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว ปรากฎออกไปบนโซเชียล ทางด้าน พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้มีการสั่งการให้เร่งติดตามหาหนุ่ม ที่อ้างตนว่าเป็นตำรวจภายในคลิป จนทราบว่าชายในคลิปนั้นเป็นตำรวจจริง สังกัด สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้สั่งการให้ตำรวจนายดังกล่าว และผู้บังคับบัญชาของตำรวจผู้นี้ทำรายงานชี้แจง ทั้งนี้จะมีการดำเนินการอย่างเด็ดขาด ทั้งทางวินัยและทางกฎหมาย โดยเฉพาะเป็นตำรวจ อยู่นอกเครื่องแบบ และไม่ได้อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ แต่กลับพกพาอาวุธปืน และมีปากเสียงกับประชาชน ส่วนสาเหตุนั้น เบื้องต้นจะรอให้มีการทำรายงานชี้แจงมา และสอบปากคำก่อน โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมอย่างแน่นอน

ขณะที่ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ ทางด้าน ด.ต.ธนกฤต ชัยนารักษ์ ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.สารภี ซึ่งเป็นบุคคลที่ปรากฎภายในคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว ได้เข้าพบกับคู่กรณีที่โพสต์คลิปดังกล่าว โดยมี พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ เป็นคนกลาง พร้อมทั้งได้มีการสอบถามข้อเท็จจริงของเรื่องรายที่เกิดขึ้น ซึ่งทางด้าน ด.ต.ธนกฤต ยอมรับว่า ได้เป็นบุคคลที่ปรากฎภายในคลิป ซึ่งขณะเกิดเหตุช่วงเย็น ตนได้ขับรถมากับภรรยาและลูก วิ่งมาตามถนนเลียบรางรถไฟเชียงใหม่-ลำพูน ระหว่างทางได้ถูกรถสี่ล้อแดงขับเบียดเข้ามาจากข้างทาง จนรถเกือบเสียหลัก จึงได้ขับตามรถคู่กรณีและเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ส่วนปืนที่สะพายที่เห็นในคลิปนั้นเป็นปืน BB GUN เป็นปืนที่เอามาจากร้านซ่อมปืน ส่วนเหตุที่ต้องสะพายปืนลงมานั้น ก็เพราะว่าในรถมีภรรยาและลูกชายอยู่ด้วย เกรงว่าลูกชายจะจับเอาปืนไปเล่นและเกิดอันตราย จึงได้สะพายปืนออกมาด้วย และไม่คาดว่าจะถูกวิจารณ์กลายเป็นกระแสในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ตนอยากจะขอโทษคู่กรณีและสังคม ที่ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีดังกล่าวด้วย

ขณะที่ทางด้าน นายบีและภรรยา คู่กรณี กล่าวว่า ภายหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการติดตามตัวผู้ก่อเหตุ และได้มีการนัดมาเจรจาพูดคุยกันแล้วนั้น เบื้องต้นก็เข้าใจกันแล้ว และหลังจากเจรจากันก็ไม่ถือโทษโกรธ รวมทั้งไม่ติดใจเอาความกัน โดยหลังจากนี้ก็จะได้ไปดำเนินการลบคลิปวีดีโอที่ปรากฎในโซเชียลออก และขอให้เรื่องทั้งหมดจบลงเพียงเท่านี้

อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ทางด้าน พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการสอบถามพูดคุยกับทั้งสองฝ่ายประเด็นที่เกิดขึ้น คือเรื่องของการขับรถ ซึ่งต่างฝ่ายต่างเข้าใจผิดกัน และเข้าใจว่าเป็นการกลั่นแกล้งกันโดยการขับรถ แล้วประสงค์ให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บ แต่ทั้งหมดทั้งมวลภายหลังการพูดคุยกันก็เข้าใจกันทั้งสองฝ่าย ว่าไม่ใช่การจงใจ และหลังจากนั้นก็ได้มีการลงมาพูดคุยกัน แต่อาจจะด้วยอารมณ์ตอนนั้นอาจทำให้เกิดพูดจาเสียงดังใส่กัน และในส่วนของภาพที่ปรากฏในสื่อจะเห็นว่า ด.ต.ธนกฤต สะพายอุปกรณ์ลักษณะคล้ายอาวุธปืนลงมา และจากการตรวจสอบก็พบว่าอาวุธปืนที่พกมานั้นเป็นปืน BB GUN เนื่องจากเจ้าตัวเป็นคนที่ชอบเล่นปืน BB GUN และทราบจากเจ้าตัวว่าเพิ่งนำปืนดังกล่าวไปซ่อม และเดินทางมากับลูกและภรรยา จึงได้สะพายติดตัวเนื่องจากลูกนั่งในรถ เกรงว่าจะหยิบไปเล่นแล้วเกิดอันตราย จนปรากฏเป็นภาพดังกล่าวภายในคลิป

อย่างไรก็ตามจากภาพที่ปรากฏออกมาดังกล่าว ทางท่านผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้ให้ความสนใจและกำชับลงมาโดยตรงและให้ดำเนินการอย่างถี่ถ้วน เนื่องจากเป็นข้าราชการตำรวจ เมื่อปรากฏเรื่องราวดังกล่าวออกมาอาจทำให้เสียภาพพจน์ และอาจกระทบต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชน โดยในส่วนของการดำเนินการทาง ด.ต.ธนกฤต ก็ได้มอบหมายให้ทาง ผกก.สภ.สารภี ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของ ด.ต.ธนกฤต ได้ดำเนินการตรวจสอบ ชี้แจงรายละเอียดและคงมีมาตรการทางวินัย ในการดำเนินการกับ ด.ต.ธนกฤต ต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น