จังหวัดเชียงใหม่ จัดประชุมผ่อนปรนโควิด-19 ให้ สนามกอล์ฟในเชียงใหม่ เปิดเล่นได้ แต่ต้องทำตามกฏของกรมอนามัยอย่างเข้มข้น เมื่อวันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม 2563 นายสงค์ศักย์ คำดีรุ่งริรัตน์ ผอ.กกท.จ.เชียงใหม่ เข้าร่วมประชุมคณะทำงานฯ มาตรการผ่อนปรน 6 กิจการ(จังหวัดเชียงใหม่)เริ่ม 3 พ.ค. 2563 ตามมาตรการป้องกันความเสี่ยงโรคไวรัสโควิด-19 ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อบจ.เชียงใหม่
จากความเคลื่อนไหวของการอนุญาตให้กิจกรรมกอล์ฟอีกหน ล่าสุดทางด้าน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 หรือ ศบค. ได้มีแถลงการณ์เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมาด้วยการอนุญาตให้มีการผ่อนปรน 6 กิจกรรม ซึ่งรวมถึง กีฬา และสันทนาการ
คำแถลงการณ์โดย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.เรื่องข้อกำหนดและมาตรการผ่อนปรน ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 4 โดยที่มี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.), ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.), นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายกลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าไทย ร่วมแถลง
ข้อสรุปจากที่ประชุม ให้มีข้อกำหนดและมาตรการผ่อนปรน จะมีมาตรฐานกลาง ของกิจการและกิจกรรมในทุกพื้นที่ ให้ผู้ว่าฯกำหนดรายละเอียดต่อไป มีความเข้มข้นมากได้ แต่น้อยกว่ามาตรฐานกลางไม่ได้ โดยจะต้องคำนึงถึงเรื่องสาธารณสุขเป็นหลัก ก่อนที่เรื่องสังคม และเศรษฐกิจ จะตามมา โดยจะเริ่มต้นในวันที่ 3 พ.ค. นี้ เป็นต้นไป พร้อมกับมีการประเมินอีก 14 วัน จากตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มากขึ้นหรือน้อยลง ซึ่งหากมากขึ้นจะมีการทบทวนกันใหม่ และหากน้อยลงก็จะมีการคลายมาตรการต่อไป
ด้านกิจกรรมกีฬา และสันธนาการ กีฬากอล์ฟ ก็เป็นหนึ่งในกีฬาที่ได้รับการพิจารณาให้มีการเริ่มมีกิจกรรมได้อีกครั้ง หลังจากที่มีคำสั่งให้หยุดกิจกรรมเกี่ยวกับกอล์ฟมาตั้งแต่เดือน มี.ค. ที่ผ่านมา จะให้เปิดบริการตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 2563
เปิดเฉพาะชนิคกีฬา โดยรวมถึงสนามไดรฟ์กอล์ฟ และสนามเทนนิสด้วย โดยการลงพื้นที่สนามกอล์ฟในครั้งนี้ เพื่อแนะนำแนวทางการปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ในการควบคุมป้องกันเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่องเมื่อได้รับการผ่อนปรน โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักด้วยกัน ได้แก่
ส่วนที่ 1 การปฏิบัติของเจ้าของกิจการหรือผู้ให้บริการ และรูปแบบการบริการ โดยขอให้ปฏิบัติดังนี้
1. ให้มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่งกายแก่พนักงานทุกคน หากพบพนักงานที่มีอาการเจ็บป่วย เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อให้หยุดงานและพบแพทย์
2. จัดหาหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยสำหรับพนักงานทุกคนอย่างเพียงพอ
3. จำกัดจำนวนผู้รับบริการในสัดส่วนที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป ใช้รับนัดจองคิวเข้าใช้บริการและควบคุมระยะเวลาใช้บริการ
4. พนักงานที่ให้บริการต้องล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือใช้เจลแอลกออล์ลงมือเป็นประจำ
และ 5. แม่บ้านที่ปฏิบัติงานในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องอาบน้ำ ห้องส้วม ต้องใส่ถุงมือ รองเท้าหุ้มข้อและสวมหน้ากากผ้าขณะปฏิบัติงาน
ร่วมแสดงความคิดเห็น