เดินหน้าสู้ ! อดีตเชฟอาหารจีน เจอพิษโควิด-19 ตกงานสู้ชีวิตขายอาหารล้อเข็น

จากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Doi Harnphanijaroen” ได้โพสต์คลิปและภาพผู้ชายคนหนึ่งที่สวมใส่ชุดเชฟกำลังปรุงอาหารกับกระทะที่อยู่บนร้านรถเข็น พร้อมระบุว่า “ผู้ชายคนดังกล่าวเป็นเชฟโรงแรมชื่อดัง แต่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องว่างงานมานานกว่า 2 เดือน อย่างไรก็ตามไม่ต้องการรอคอยความช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว จึงได้หารถเข็นมาทำเป็นร้านอาหารตามสั่งเดินตระเวนขายไปตามจุดต่าง ๆ ในตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเอง ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีผู้แชร์ต่อและเข้าไปแสดงความเห็นชื่นชมให้กำลังใจผู้ชายคนนี้จำนวนมาก”

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ชายคนดังกล่าวที่สวมชุดเชฟเข็นรถขายอาหารตามสั่งคือ นายศรีวรรณ สุขสบาย หรือ “เชฟวรรณ” อายุ 56 ปี ซึ่งเปิดเผยว่า เดิมทำงานเป็นเชฟอาหารจีน อยู่ในโรงแรมชื่อดังของเชียงใหม่ และจังหวัดพิษณุโลก รวมทั้งร้านอาหารชื่อดังระดับภัตตาคาร มีประสบการณ์มานานกว่า 30 ปี โดยล่าสุดเป็นเชฟให้กับร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ที่รับลูกค้าหลักเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเลย ทางร้านจึงต้องปิดชั่วคราวและตัวเองต้องว่างงานตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2563 เป็นต้นมา ซึ่งตลอดช่วงที่ผ่านมา ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะมีภาระค่าใช้จ่ายต้องรับผิดชอบ ทั้งค่ากินอยู่และค่าเช่าบ้าน แต่ไม่อยากรอคอยความช่วยเหลืออย่างเดียว จึงได้พยายามดิ้นรนช่วยตัวเองด้วยการรวบรวมเงินทุนจากการหยิบยืมและเงินเยียวยา 5,000 บาท ที่เพิ่งได้รับจากรัฐบาล นำไปซื้อรถเข็นมือสองมาซ่อม และใช้ฝีมือทำอาหารของตัวเอง เปิดร้านรถเข็นขายอาหารตามสั่ง ซึ่งเพิ่งเริ่มขายวันแรกเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2563

โดยรายการอาหารที่ขาย ได้แก่ ข้าวไข่เจียว, ข้าวผัดกะเพรา, ข้าวผัดคะน้า, ข้าวผัด ราคา 25-30 บาท เพิ่มข้าวหรือไข่ดาว 5 บาท ซึ่งราคาย่อมเยาให้ลูกค้าสามารถซื้อกันได้อย่างสบายกระเป๋า เพราะทราบดีว่าในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ผู้คนต่างขาดรายได้เหมือนกันหมด แต่รับประกันเรื่องความสะอาดและรสชาติ ซึ่งหลังจากที่เปิดขายเบื้องต้นได้รับการตอบรับจากลูกดีพอสมควร ส่วนจุดที่จะเข็นไปขายในช่วงแรกนี้จะเป็นย่านรอบ ๆ ตลาดเมืองใหม่เป็นหลัก เริ่มตั้งเวลาประมาณ 17.00 น.เป็นต้นไป เพราะมองว่าน่าจะมีลูกค้าใช้บริการ ขณะเดียวกันจะมีการเดินเข็นรถไปขายตามจุดต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน เพียงแต่ว่าอาจจะไปได้ไม่ไกลมากนัก เพราะรถเข็นที่ใช้อยู่ค่อนข้างเก่าทำให้เข็นค่อนข้างยาก และตัวเองอายุเริ่มเยอะแล้ว ออกขายเพียงคนเดียวเป็นหลัก ยกเว้นบางวันที่อาจจะมีลูกสาวกับลูกเขยที่อยู่ต่างอำเภอมาช่วยบ้าง อย่างไรก็ตามจะพยายามดิ้นรนทำมาหากินช่วยเหลือตัวเองจนถึงที่สุด เพราะไม่ชอบขอใครกิน หากใครอยากจะช่วยเหลือ แค่ช่วยอุดหนุนกันก็พอใจแล้ว

ร่วมแสดงความคิดเห็น