สร้างถนน 4 เลน แพร่-น่าน เชื่อมทางหลวงอาเซียนสาย 13

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะรัฐมนตรีมีมติผ่อนผันมติ 21 ตุลาคม 2529 เรื่อง การกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำยมและ
น่าน และข้อเสนอแนะมาตรการการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำและมติคณะเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2532 (ขอผ่อนผันใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เพื่อก่อสร้างทางเพื่อความมั่นคง)ให้กระทรวงคมนาคมโดยกรมทางหลวงใช้พื้นที่ดำเนินโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 101 สาย อำเภอร้องกวาง–น่าน ตอน บ้านห้วยแก๊ต–บ้านห้วยน้ำอุ่น จ.แพร่ ไป จ.น่าน

โดยกรมทางหลวง ระบุว่าโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสายทางของโครงการเร่งรัดขยายทางสายประธาน ให้เป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) เพื่อเป็นโครงข่ายถนนสายหลักในพื้นที่ภาคเหนือตั้งแต่ .กำแพงเพชร, สุโขทัย, แพร่ และน่าน ตามโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 101 หรือโครงการก่อสร้างทางหลวงเชื่อมโยงระหว่างประเทศ (ไทย -สปป.ลาว-เวียดนาม-จีน) ตามแนวทางหลวงอาเซียนสายเอเอช 13

 

 

ปัจจุบันมีปริมาณรถบรรทุกที่ใช้เส้นทางดังกล่าวในการเดินทางไปยังด่านห้วยโก๋น สปป.ลาวเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งใน
ช่วงเทศกาลท่องเที่ยวจะมีปริมาณจราจรที่หนาแน่น เนื่องจากจังหวัดน่าน เป็นจังหวัดท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ถนนดังกล่าวบางช่วงมี 2 ช่องจราจร สภาพเส้นทางเป็นเขาคดเคี้ยว เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงให้เป็นทางหลวงขนาด 4 ช่องทางจราจร

เริ่มต้นโครงการจากอ.ร้องกวาง จ.แพร่ ที่ กม. 183+750 (กม. 300+049 ใหม่) และสิ้นสุดที่ อ.เวียงสา จ.น่าน ที่
กม. 199+900 (กม. 316+199 ใหม่) ระยะทางรวม 16.150 กม. มาตรฐานชั้นทางพิเศษ ผิวทางแอสฟัลติกคอนกรีต กว้างช่องจราจรละ 3.50 เมตร ไหล่ทางกว้างข้างละ 2.50 เมตร เกาะกลางแบบยก หรือแบบกำแพงคอนกรีต ถนนตัดผ่านพื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ จำนวน 1 จุด เริ่มต้นที่ กม. 199+700 ถึง กม. 199+900 (กม. 315+999 ถึง กม. 316+199 ใหม่) รวมระยะทาง 200 เมตร

ในส่วนงบประมาณ เห็นชอบในวงเงิน 1,093,900,000 บาท ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ พ.ศ. 2562 จำนวน 220,000,000 บาท ที่เหลือ  873,900,000 บาท ผูกพันงบประมาณ พ.ศ. 2563-2565
ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า แม้รัฐบาลจะสั่งให้ทุกหน่วยปรับลดงบประมาณปี
2564 ไปช่วยรัฐบาลต่อสู้ไวรัสโควิด-19ในส่วนของทล.อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับตามความเหมาะ ในภาพรวมงานโครงการขนาดใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่จะกระทบงานซ่อมบำรุง งานรักษาความปลอดภัย ซึ่งจะเป็นงานโครงการตามแผนงบประมาณประจำปี

ในขณะที่นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) กล่าวว่า งบผูกพัน 2563 โดนตัดไปจำนวน 5%
พร้อมกับงบประเภทปีเดียวอีกส่วนหนึ่ง รวมทั้งหมด 2,311 ล้านบาท โอนให้รัฐบาลนำไปใช้แก้ไขปัญหาโควิด-19 โดยงบ 2563 นี้ได้รับอนุมัติเกือบ 5 หมื่นล้านบาท จึงยังคงเหลือใช้ประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตามหลังจากเส้นทางสายแพร่-น่าน ผ่านลุ่มน้ำชั้นเอ. 1 ได้รับการอนุมัติผ่อนผัน พร้อมสนับสนุนงบสร้าง
ขยายถนน 4 เลน ส่งผลให้ภาคประชาสังคมและชาวแม่ฮ่องสอน เรียกร้องให้รัฐบาลและคณะรัฐมนตรี ทบทวนโครงการสร้างถนน ในลักษณะเดียวกันที่โครงการค้างมานานหลายปี เพราะติดปัญหาผ่านพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นเอ 1 อีกหลาย ๆ สายด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น