วันที่ 6 พฤษภาคม 2563 เวลา 10.00 น. ด้วยทางรัฐบาลได้ประกาศ การออกนอกพื้นที่ ต้องทำการกักตัว 14 วัน และยังประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกจากเคหะสถาน ให้อยู่ในที่บ้านหรือที่พัก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่เวลา 22.00 น. ถึงเวลา 04.00 น. วันรุ่งขึ้น ซึ่งทางประชาชนได้ให้ความร่วมมือกันอย่างดี
แต่ปัญหาที่ตามมา คือประชาชนที่ยากจน และตกงานหรือนายจ้างเลิกจ้างงาน ต้องกลับมาอาศัยบ้านเกิด เพราะการครองชีพถูกกว่า การอยู่อาศัยในเมืองใหญ่ ที่มีค่าใช้จ่ายสูง และเพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว จึงต้องเฝ้าระมัดระวังกันแทบทุกคน และต้องปฏิบัติตามกฏหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และต้องสวมแมส ป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ขณะเดียวกัน บางครัวเรือนไม่มีรายได้ และไม่ได้เตรียมพร้อมเก็บสะสมอาหาร เพื่อยังชีพตนเองและคนในครัวเรือน มีการขาดแคลน ทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง ยารักษาโรค
ทางส่วนพระสงฆ์ โดยพระครูวิคมบุญญาคม เจ้าคณะตำบลศรีดงเย็น, นายเจษฏา สรณวิช ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลปกครอง พร้อมคณะ, นายเกียรติศักดิ์ เทพผดุงพร พร้อมครอบครัว, นายอุทัย สอนจีน ปลัดอาวุโสอำเภอไชยปราการ, นายสุชาติ บัวคำ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลไชยปราการ, นายสมเกียรติ อยู่ศิริ กำนันตำบลศรีดงเย็น, พ.ต.ท.ณัฐกิตติ อัจฉวิยะสกุล สารวัตรปราบปรามสถานีตำรวจภูธรไชยปราการ พร้อมคณะ, ส่วนเอกชน, ภาครัฐ และผู้ที่ประสงค์บริจาคสิ่งของ ได้ให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ด้อยโอกาส และยากจน
โดยได้เข้าทำการมอบแจก ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำมันพืช ไข่ไก่ เครื่องปรุงรสต่าง ๆ และน้ำดื่มสะอาด พร้อมกับมอบเมล็ดพันธ์พืชต่าง ๆ ให้กับประชาชน เพื่อการยังชีพของตนเอง และคนในพื้นที่ให้อยู่ต่อไปได้ ใช้สิ่งของอย่างประหยัด และใช้เมล็ดพันธ์พืชต่าง ๆ มาทำการเพาะปลูก สามารถเก็บมาทำอาหารและแบ่งปันให้กับเพื่อนบ้านได้ โดยไม่ต้องเบียดเบียนกันและกัน ได้มอบสิ่งของยังชีพที่ วัดบ้านสันต้นเปา (บ้านอ่าย) จำนวน 600 ครัวเรือน 600 ชุด โดยความเรียบร้อย และทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านร้องธาร และ อสม. บ้านอ่าย ชรบ. บ้านอ่าย ได้มาทำการดำเนินการป้องกันและจัดระเบียบให้กับผู้เข้ามารับสิ่งของยังชีพ
ร่วมแสดงความคิดเห็น