4 ผู้เสียหาย เข้าพบตำรวจลงบันทึกฯ หลังถูกเจ้าของร้านอาหารดัง บ่ายเบี่ยงจ่ายเงินคืน

4 ผู้เสียหาย เข้าพบตำรวจลงบันทึกฯ ถูกเจ้าของร้านอาหารดัง ชวนลงทุนทำลานเบียร์งานเซรามิคแฟร์ หลังเสร็จงานบ่ายเบี่ยงจ่ายเงินคืน ทยอยคืนให้แค่บางส่วน รวมยอดเงินกว่า 2 แสนบาท

เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 63 ที่ สภ.เขลางค์นคร ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง ได้มีผู้เสียหาย 4 คน ประกอบด้วย น.ส.อังคณา  อายุ 36 ปี น.ส.พรพิมล  อายุ 28 ปี นายธนาวุธ  อายุ 30 ปี และน.ส.เกศกนก อายุ 41 ปี รวมตัวกันเข้าพบกับ ร.ต.อ.อภิรักษ์ มีธรรม รอง สว.(สอบสวน) เพื่อปรึกษาว่าถูก นายปฏิภาณ หรือรู้จักกันในนามของ ป้อม อดีตเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ปากทางเข้าหมู่บ้านเวียงบัว ต.ชมพู อ.เมืองลำปาง ชักชวนให้ลงทุนประมูลงานลานเบียร์เซรามิคแฟร์ ครั้งที่ 32 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 พ.ย. ถึง 10 ธ.ค. 62 ณ ลานเอนกประสงค์ ห้างไทวัสดุลำปาง

ซึ่งนายปฏิภาณ ได้บอกกับพวกตนว่า เป็นผู้ประมูลงานลานเบียร์เซรามิคแฟร์ ครั้งที่ 32 จากสมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปาง โดยถูกต้องตามระเบียบและชอบด้วยกฎหมาย ผู้เสียหายจึงตกลงในการลงทุนดังกล่าว และโอนเงินหรือจ่ายเงินสดให้กับนายปฏิภาณฯ เป็นเงิน 50,000 บาท 75,000 บาท 50,000 บาท และ 50,000 บาท ตามลำดับ หลังจากโอนเงินแล้ว นายปฏิภาณ รับว่าจะคืนเงินตามจำนวนให้ผู้เสียหายแต่ละคนที่ลงทุนไปภายใน 2 สัปดาห์ นับแต่วันโอนหรือจ่ายเงิน พร้อมกับเสนอเงินค่าตอบแทนหรือกำไรคืน 5,000-10,000 บาทต่อวัน หลังจากงานจัดเสร็จสิ้น ผู้เสียหายทั้ง 4 คน ได้ทวงถามตามข้อตกลงที่คุยกับนายปฎิภาณไว้ แต่ได้รับคำตอบว่า รอเงินจากบริษัทเบียร์ช้าง จำนวน 2 แสนบาทที่จะโอนมาให้ หากได้เงินแล้วจะรีบเอามาคืน แต่หลังจากนั้นนายปฏิภาณ ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด

ต่อมาเมื่อวันที่ 25 มี.ค. 63 ผู้เสียหายได้ทำหนังสือไปถึงสมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปาง สอบถามเรื่องการประมูลการจัดลานกิจกรรม ลานเบียร์ในงานลำปางเซรามิคแฟร์ ครั้งที่ 32 และได้รับคำตอบว่านายปฎิภาณ เป็นตัวแทนการจัดกิจกรรมดังกล่าวจริง และเคยเป็นผู้แทนการจัดลานกิจกรรม ในงานลำปางเซรามิคแฟร์ ครั้งที่ 31 มาก่อนแล้ว แต่ทางสมาคมฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับวางเงินมัดจำ หรือจ่ายค่าเช่าพื้นที่ให้กับสมาคมฯ เพียงแต่ได้รับผลประโยชน์จากนายปฎิภาณ จากการสนับสนุนค่าประชาสัมพันธ์โดยตรงจาก บริษัทป้องคลัง จำกัด เท่านั้น เมื่อทราบเช่นนี้แล้ว ผู้เสียหายทั้ง 4 คน จึงได้เข้าปรึกษากับพนักงานสอบสวน กรณีจะเอาผิดกับนายปฏิภาณได้อย่างไรได้บ้าง พร้อมกับลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

ด้าน น.ส.เกตุกนก กล่าวว่า ในส่วนตนเองได้ทวงถามมาหลายครั้งตั้งแต่ต้นปี ซึ่งได้เงินคืนมาจำนวน 20,000 บาท แต่ยังค้างอยู่อีก 30,000 บาท จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้ ทักไลน์ไปก็ไม่อ่าน โทรศัพท์ไปก็ไม่รับสาย ซึ่งตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ในตอนแรกก็ไม่ทราบว่ามีผู้เสียหายคนอื่นโดนด้วยเหมือนกัน พอทราบข่าวว่ามีผู้เสียหายหลายคน จึงได้พูดคุยกันและรวมตัวกันมาลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เขลางค์นครไว้ หากว่ามีใครที่โดนในลักษณะเดียวกันนี้ ก็ขอให้ไปลงบันทึกประจำวัน เพื่อจะได้หาแนวทางร่วมกันว่า จะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง ซึ่งตนเองก็เพียงอยากได้เงินคืนเท่านั้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น