บอร์ด กกท. เห็นชอบ เพิ่มงบประมาณกีฬา ให้เยาวชน-ประชาชน

“บอร์ด กกท.” เพิ่มงบโครงการส่งเสริมและพัฒนากีฬาให้เยาวชน ประชาชน และบุคลากรทางการกีฬาสู่ความเป็นเลิศ ด้าน “บิ๊กป้อม” กำชับให้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยใช้งบประมาณให้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเกิดประโยชน์ รวมถึงกระแสความนิยมของการเล่นกีฬาในจังหวัดนั้น ๆ ด้วย

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) ครั้งที่ 6/2563 ที่ห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล  เมื่อวันที่ 25 พ.ค. สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้ ที่ประชุมให้ความเห็นชอบโครงการส่งเสริมและพัฒนากีฬาให้เยาวชน ประชาชน และบุคลากรทางการกีฬาสู่ความเป็นเลิศ (โครงการนำร่อง) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563

และมอบหมายให้ กกท. ร่วมกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ที่เกี่ยวข้อง จัดทำระเบียบการแข่งขันกีฬา และเห็นชอบให้ขอใช้เงินกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 จำนวน 225,000,000 บาท ประกอบด้วย 1 งบประมาณในการจัดการแข่งขันระดับอำเภอ จากเดิมอำเภอละ 250,000  บาท และปรับงบประมาณสมทบเพิ่มเติมเพื่อให้โครงการฯ มีประสิทธิภาพ เป็นอำเภอละ 750,000 บาท จำนวน 77 อำเภอ (จังหวัดละ 1 อำเภอ รวมเขต กทม.) เป็นเงิน 57,750,000 บาท และ 2 การเตรียมนักกีฬาในการเก็บตัวฝึกซ้อม โดยการนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาพัฒนาในการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย และการทดสอบสมรรถภาพทางกายของนักกีฬาระดับอำเภอ ก่อนการแข่งขันระดับภาค เป็นเงิน 34,034,000  บาท

ซึ่งโครงการฯ ดังกล่าว ได้กำหนดชนิดกีฬาที่จะพัฒนาไปสู่ความเป็นเลิศในการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ (โอลิมปิกเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์ และซีเกมส์) เพื่อขยายฐานและสร้างนักกีฬาหน้าใหม่ในส่วนภูมิภาคตั้งแต่ระดับอำเภอ ที่จะพัฒนาไปสู่ระดับชาติและนานาชาติ และจัดทำแผนสำรองการจัดการแข่งขันหลังจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กลับเข้าสู่สภาวะปกติเรียบร้อยแล้ว ได้กำหนดชนิดกีฬาสำรองไว้แทน ได้แก่ กรีฑา แบดมินตัน เทเบิลเทนนิส เทนนิส จักรยาน กอล์ฟ วอลเลย์บอล (หญิง) เซปักตะกร้อ (ทีมเดี่ยว) ยกน้ำหนัก และกีฬาอื่น ๆ ที่มีความเหมาะสม ทั้งนี้ให้เป็นไปตามมาตรการกิจการผ่อนปรนของกระทรวงสาธารณสุข

 

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กล่าวว่า ขอให้ กกท. ดำเนินโครงการนำร่องในการส่งเสริมพัฒนากีฬาให้เยาวชน ประชาชน บุคลากรทางการกีฬาในส่วนภูมิภาคสู่ความเป็นเลิศฯ ให้ถูกต้องตามกฎระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยใช้งบประมาณให้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเกิดประโยชน์ รวมถึงกระแสความนิยมของการเล่นกีฬาในจังหวัดนั้นๆ ในส่วนการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

 

แม้ขณะนี้รัฐบาลได้มีการผ่อนปรนเพื่อให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติขึ้น และเป็นการลดผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคม ก็ขอเน้นย้ำให้ทุกคนและทุกภาคส่วนยังคงต้องปฏิบัติตัวและดำเนินแนวทางในวิถีแบบ New Normal ตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัดต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมให้ความเห็นชอบแต่งตั้งผู้แทนปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์ กกท.

รวมทั้งให้ความเห็นชอบเพิ่มเติมอนุกรรมการในคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้แก่ นายปัญญา หาญลำยวง และให้ความเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ กกท. เพื่อนำเสนอคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ พิจารณา ได้แก่ ด้านการแพทย์ นายอรรถฤทธิ์ ศฤงคไพบูลย์ และนางอุไรรัตน์  ศิริวัฒน์เวชกุล, ด้านการบริหารการกีฬา นายสมชาย พูลสวัสดิ์ และนายสกล วรรณพงษ์ ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิ 2 สาขา ที่จะนำเสนอ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) สาขาละ 2 คน เพื่อให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มี นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พิจารณาให้เหลือสาขาละ 1 คน ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบ ต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น