“เจ้าแขวงอุดมไชย สปป. ลาว ส่งจดหมายแสดงความขอบคุณผู้ว่าแพร่ ที่ช่วยเหลือปชช. สปป. ลาว

ผู้สื่อข่าวจังหวัดแพร่รายงานว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด -19 ซึ่งทางรัฐบาลและศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด–19 หรือ ศบค. ได้มีมาตรการด้านต่างๆ ออกมาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นั้น ขณะเดียวกันจังหวัดแพร่ได้สนองตอบนโยบายและมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะมาตรการการกักตัวผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงและต่างจังหวัด โดยที่ผ่านมามีประชาชนจากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือ สปป.ลาว ได้เดินทางจะกลับประเทศ แต่ติดที่ประเทศไม่เปิดให้เข้าจึงมาพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดแพร่ และเข้ากักตัวยังศูนย์กักกันมหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่เฉลิมพระเกียรติ อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ จนครบกำหนด 14 วัน จำนวน 7 คน ประกอบด้วยชาย 4 คน หญิง 3 คน และเมื่อครบ 14 วันแล้วยังเข้าประเทศไม่ได้จึงต้องอาศัยอยู่ในศูนย์ดังกล่าวต่อไปอีกระยะหนึ่ง

จังหวัดแพร่ โดยนางกานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมและนำเครื่องอุปโภค-บริโภค ไปมอบให้ความช่วยเหลือประชาชนของ สปป. ลาว อย่างต่อเนื่อง จนทั้งหมดกลับเข้าไปยังประเทศตัวเองแล้ว


เจ้าแขวงอุดมไชย สปป. ลาว จึงได้ทำหนังสือมาขอบคุณทางผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ พร้อมด้วยประชาชนและเจ้าหน้าที่ ที่ได้ให้ความช่วยเหลือแรงงานลาวที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และได้อาศัยอยู่ในจังหวัดแพร่ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง เพื่อให้แรงงานลาวได้กลับแขวงอุดมไชย ด้วยความสวัสดิภาพทุกประการ พร้อมขอชมเชยประเทศไทยและจังหวัดแพร่ที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ได้เป็นอย่างดี

สำหรับการส่งกลับชสวลางมีขึ้นเมืวันทึ่13 พ.ค.2563 ทึ่ผ่านมานายวรญาณ บุญณราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นายอนุวัธ วงศ์วรรณ นายก อบจ.แพร่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและผู้เกี่ยวข้อง ร่วมกันส่งชาวลาวกลับประเทศลาว เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้นายจ้างปิดกิจการ จึงไม่มีงานทำ ทำให้ขาดรายได้ ไม่มีที่อยู่อาศัย จึงขอกลับบ้านเกิด ทางจังหวัดได้จัดพิธีส่งกลับบ้าน ณ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดแพร่ บริเวณโรงเรียนวัดปทุม ตำบลเหมืองหม้อ เมือง จังหวัดแพร่

ร่วมแสดงความคิดเห็น