“เสรีพิศุทธ์” ปักหลักลำปาง ช่วยผู้สมัครหาเสียง เขต 4

“เสรีพิศุทธ์” ปักหลักลำปาง ช่วยผู้สมัครหาเสียง เขต 4 มั่นใจเสียงจากคนรักประชาธิปไตย กว่า 8 หมื่นเสียง เทคะแนนให้ วอนประชาชนดูผลการทำงาน 7 ปี ของรัฐบาลว่าประสบความสำเร็จหรือไม่ ก่อนตัดสินใจลงคะแนน

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ ได้นำ ร.ต.ท.สมบูรณ์ กล้าผจญ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 เบอร์ 2 พรรคเสรีรวมไทย ลงพื้นที่ จ.ลำปาง ช่วยผู้สมัครหาเสียงในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปางเขต 4 แทน ตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งกำหนดเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 20 มิ.ย.63 นี้ โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ได้เดินทางมาช่วยผู้สมัครลงพื้นที่หาเสียงที่ จ.ลำปาง เป็นเวลา 8 วันด้วยกัน โดยจะได้เดินสายไปยังพื้นที่เขต 4 ทั้ง 5 อำเภอ ประกอบด้วย เกาะคา เสริมงาม สบปราบ เถิน และแม่พริก เพื่อนำเสนอนโยบายของพรรคเสรีรวมไทย โดยเฉพาะการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน รวมถึงหยุดคอรัปชั่น และหยุดเผด็จการ

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า มั่นใจตั้งแต่ส่ง ร.ต.ท.สมบูรณ์ กล้าผจญ ลงสมัครรับเลือกตั้งแล้ว ถึงแม้ว่าครั้งที่ผ่านมาเราจะไม่ชนะการเลือกตั้งก็ตาม เหตุที่มั่นใจเพราะว่าครั้งนี้ทางพรรคเพื่อไทยไม่ส่งคนลงสมัคร ส่วนพรรคอนาคตใหม่ก็ไม่สามารถลงเลือกตั้งได้ เราจึงเป็นพรรคฝ่ายค้านพรรคเดียวที่ลงสู้ศึกในครั้งนี้ ในขณะที่พรรคอื่นเป็นพรรคฝ่ายรัฐบาลทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นจึงเป็นการต่อสู้กันระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ เชื่อแน่ว่าพี่น้องลำปางเขต 4 รักประชาธิปไตย สามารถพูดคุยโต้ตอบได้ โปร่งใส ไม่เหมือนเผด็จการ ครั้งที่แล้วจึงเลือกพรรคเพื่อไทยให้ชนะการเลือกตั้ง จึงมั่นใจว่าคะแนนของประชาธิปไตยมีอยู่กว่า 7 หมื่นคะแนน ส่วนคะแนนเผด็จการมีเพียง 3 หมื่นกว่าคะแนน แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ก็ขอให้ประชาชนชาวลำปางเขต 4 ที่เคยลงคะแนนให้พรรคฝ่ายประชาธิปไตย อย่าเปลี่ยนใจ หันมาเทคะแนนให้พรรคเสรีรวมไทยที่เป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตยเพียงพรรคเดียวเท่านั้น

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนที่ลงคะแนนไป 3 หมื่น คะแนนในครั้งที่แล้ว ก็คงจะเห็นแล้วว่าการบริหารประเทศมาร่วม 7 ปีแล้ว ลองพิจารณาดูว่าเป็นอย่างไร ทำไมประชาชนจึงยากจนลงทุนวัน การตั้งงบประมาณขาดดุลทุกปี เก็บภาษีประชาชนได้ไม่เพียงพอกับงบประมาณที่จะใช้จ่าย จึงต้องไปกู้เงินมาเพิ่ม ทำให้ประเทศไทยเป็นหนี้ เมื่อเกิดโรคระบาดรัฐต้องดูแลหมด รวมถึงการตรวจรักษาพยาบาลต่างๆ แต่ไปกำหนดมาตรการให้คนหยุดงาน คนตกงาน เดือดร้อน ซึ่งต้องชดเชยให้เขาแต่รัฐบาลก็ไม่มีเงิน ต้องไปกู้มาอีก เป็นการสร้างภาระให้พี่น้องประชาชน ปัญหาก็จะตามมาคือรัฐบาลต้องหาเงินไปชดใช้ โดยการที่จะขึ้นภาษีกับประชาชนอีก ยิ่งทำให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชน ถ้าประชาชนคิดได้ควรเปลี่ยนใจมาเลือกฝ่ายประชาธิปไตย ให้เข้ามามีโอกาสบริหารประเทศ หากทำงานแล้วไม่พอใจต่อไปก็ไม่ต้องเลือกอีกก็ได้

ร่วมแสดงความคิดเห็น