ชาวเชียงใหม่ แห่แชร์ภาพ “เงาเสี้ยว” จากปรากฏการณ์ “สุริยุปราคาบางส่วน”

ช่วงบ่ายวันที่ 22 มิ.ย. 63 รายงานข่าวแจ้งว่า จากการที่ในวันนี้ในพื้นที่ทั่วทั้งประเทศได้มีรายงานการเกิดปรากฏการณ์ “สุริยุปราคาบางส่วน” ซึ่งหาชมได้ยาก โดยเกิดจากดวงจันทร์บดบังดวงอาทิตย์เพียงบางส่วน ทำให้มองเห็นดวงอาทิตย์เว้าแหว่ง สามารถสังเกตได้ทุกภูมิภาคของไทย แต่ละภูมิภาคจะมองเห็นดวงอาทิตย์เว้าแหว่งมากน้อยแตกต่างกัน สามารถสังเกตได้ในช่วงเวลาประมาณ 13:00 – 16:10 น. ตามเวลาประเทศไทย และจากการที่ประชาชนหลายคนทราบข่าวต่างพากันแห่ขมปรากฎการณ์ดังกล่าวที่สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการจัดอุปกรณ์และพื้นที่ให้กับประชาชนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อเฝ้าติดตามชมปรากฎการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น อย่างน่าตื่นเต้น และนอกจากนี้จากปรากฎการณ์ดังกล่าว ยังส่งผลให้เกิด “เงาเสี้ยว” ซึ่งมาจากการที่ดวงจันทร์บดบังดวงอาทิตย์ และสามารถสังเกตเห็นปรากฎการณ์นี้ได้จากเงาต่าง ๆ ที่กลายเป็นจันทร์เสี้ยว หรือการใช้อุปกรณ์ที่สะท้อนเงาปรากฎบนพื้น เช่น ตะแกรง หรืออุปกรณ์ที่เป็นรูที่แสงสามารถลอดผ่านได้กลายเป็นภาพจันทร์เสี้ยว รวมทั้งมีผู้พบเห็นเหตุการณ์นี้ต่างแชร์ภาพปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นจำนวนมากลงในโลกโซเชียล

ทั้งนี้สำหรับปรากฎการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก โคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน มีดวงจันทร์อยู่ตรงกลาง เมื่อสังเกตจากโลกจะเห็นดวงจันทร์เคลื่อนที่เข้ามาบดบังดวงอาทิตย์ เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สามารถอธิบายได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ นักดาราศาสตร์สามารถคำนวณการเกิดล่วงหน้าได้หลายพันปี โดยดวงอาทิตย์มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางยาวกว่าดวงจันทร์ 400 เท่า แต่อยู่ห่างจากโลกมากกว่าดวงจันทร์ 400 เท่า เราจึงมองเห็นดวงอาทิตย์และดวงจันทร์มีขนาดปรากฏเท่ากันพอดี สุริยุปราคา หรือ สุริยคราส เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากดวงจันทร์โคจรผ่านหน้าดวงอาทิตย์ เราจึงมองเห็นดวงอาทิตย์ค่อย ๆ แหว่งมากขึ้นจนกระทั่งมืดมิดหมดดวงและโผล่กลับมาอีกครั้ง ในอดีตที่ผ่านมาเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคา จันทรุปราคา มาแล้วมากมายหลายครั้ง นักดาราศาสตร์สามารถคำนวณการเกิดสุริยุปราคา จันทรุปราคา ได้ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ข้อมูลแม่นยำเป็นระดับวินาที

อย่างไรก็ตามจากกรณีที่มีกระแสข่าวลือเผยแพร่ในโลกโซเชียล เกี่ยวกับกรณีความเชื่อที่ว่าในช่วงของการเกิดปรากฎการณ์ “สุริยุปราคาบางส่วน” ว่าอย่าถูกแสงของดวงอาทิตย์ในช่วงดังกล่าว เพราะอาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อดวงชะตา หรือผลต่อโชคลาภอะไรนั้น มีหลายคนวิพากษ์วิจารณ์และยืนยันกันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เนื่องจากเหตุปรากฎการณ์ดังกล่าวนี้เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ส่วนการที่ใครจะเชื่อหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน

ร่วมแสดงความคิดเห็น