สำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา เพิ่มแนวทางป้องกันการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา

นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา ครั้งที่ 1/2563 โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการ เข้าร่วม ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา กกท. เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2563

ในการประชุมดังกล่าว สำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา ได้กำหนดแนวทางการป้องกันการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา ดังนี้

1. จัดให้มีการตรวจหาสารต้องห้าม ในกีฬาที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งได้มีการประสานงานกับองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

2. จัดทำแผนงานการให้ความรู้ด้านการควบคุมสารต้องห้ามทางการกีฬา ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเน้นกลุ่มเยาวชนและนักกีฬาทีมชาติเป็นหลัก

3.ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะต้นสังกัดของนักกีฬา

4. จัดทำเครื่องมือในการเผยแพร่ความรู้ ด้านการควบคุมสารต้องห้ามทางการกีฬา เพื่อง่ายต่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

 

5. จัดอบรมบุคลากรที่เกี่ยวข้อง กับกระบวนการควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมสารต้องห้าม เจ้าหน้าที่เผยแพร่ความรู้ ผู้ฝึกสอน บุคลากรทางการแพทย์ ฯลฯ เพื่อขยายเครือข่ายการทำงานให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย

6. จัดทำบันทึกความเข้าใจ (Memorandum Of Understanding : MOU) ระหว่างสำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

7.ดำเนินการแก้ไขกฎหมาย ประกาศ ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ให้เป็นไปตามประมวลกฎต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลกฉบับใหม่ (พ.ศ. 2564) เพื่อให้ทุกภาคส่วน สามารถดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

และ 8. จัดทำแผนงานเพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติของประเทศไทย

ทั้งนี้ สำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา ได้มีการผลิตสื่อและเอกสารประชาสัมพันธ์ ที่สอดคล้องกับพระราชบัญญัติควบคุมการใช้ สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 และประมวลกฎการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก ไว้แล้ว ซึ่งท่านสามารถค้นหาข้อมูลเรื่องสารต้องห้าม ได้ทางคู่มือความรู้เกี่ยวกับสารและวิธีการต้องห้าม รวมทั้ง รายชื่อยาที่มีส่วนประกอบของสารต้องห้าม ที่สำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา จัดทำขึ้น นอกจากนี้ ยังมีเว็บไซต์ www.dcat.in.th, Facebook Fanpage DCAT Doping Control Agency of Thailand และ YouTube Channel DCAT Doping Control Agency of Thailand อีกด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น