พิษโควิด ! นางโชว์ตกงาน รวมตัวแต่งชุดนางโชว์ เปิดทำร้านยำเลี้ยงปากท้อง

พิษโควิดนางโชว์แม้เปิดเฟสใหม่ เพื่อรับงานยังไม่มีงานนานกว่า 4 เดือน เพราะไม่มีนักท่องเที่ยว กลุ่มนางโชว์ตัดสินใจรวมตัวนำเงินเก็บก้อนสุดท้ายจากการทำงาน ทำร้านยำเป็นอาชีพเลี้ยงปากท้องไปก่อน สวมชุดนางโชว์สร้างจุดขายยำรสชาติแซบถูกปากลูกค้า เพราะชื่นชอบการกินยำอยู่แล้ว

แม้ทางรัฐบาลหรือ ศบค. จะผ่อนปรนคลายล๊อกเฟส 5 แล้ว ทำให้สถานบันเทิงผับ บาร์ เปิดดำเนินการได้แล้ว แต่ก็ยังมีหลายอาชีพแม้จะเปิดสถานที่แล้ว ก็ยังไม่สามารถประกอบอาชีพได้ เพราะกลุ่มลูกค้าหลักยังเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ยังคงรอความหวังนักท่องเที่ยวหวนกลับมาท่องเที่ยวเมืองเชียงใหม่อยู่ เช่นเดียวกับ นางโชว์หรือคาบาเร่โชว์ ที่สาวประเภทสองจัดแสดงโชว์ยังสถานจัดแสดงต่าง ๆ ที่ยังไม่สามารถประกอบอาชีพได้มากว่า 4 เดือนแล้วตั้งแต่สถานการณ์โควิดเป็นต้นมา โดยหลายแห่งยังไม่สามารถเปิดทำการแสดงได้ ต้องรอนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจองบุ๊คทัวร์อยู่ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการแสดงในช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไป โดยนางโชว์ทุกคนเรียกว่ามีอาชีพนางโชว์เป็นหลัก ก็ต้องผันตัวเองเพื่อเอาตัวรอดในช่วงยุคโควิดนี้

ที่ “ร้านเริงละยำ” ก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่สาวนางโชว์ประเภทสองและกลุ่มเพื่อน รวมกลุ่มกันทำร้านยำขึ้นมา เพื่อหวังเป็นอู่ข้าวอู่น้ำเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตนเองในช่วงโควิดนี้ โดยร้านตั้งอยู่ในซอยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา (เจ็ดยอด) ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่แห่งนี้เดิมเป็นบ้านพักของนางโชว์และเพื่อน ๆ แต่ปรับปรุงเป็นขายยำเพื่อเลี้ยงปากท้องในช่วงนี้

โดยช่วงแรกเปิดร้านขายแบบเดลิเวอร์รี่ส่งออนไลน์ให้ลูกค้าในพื้นที่และใกล้เคียง ตอนนี้เริ่มคลายล๊อกแล้วเปิดบริการตั้งแต่เวลาเที่ยงวันถึง 3 ทุ่มทุกวัน หยุดทุกวันพฤหัสบดี โดยเป็นยำทั้งหมดมี ยำปลาดุกฟู ยำรวมเริงละยำ มหาเริงละยำ เริ่มต้นราคา 40 บาทเป็นต้นไป

นายม่านฟ้า หรือมะตอย สุขประกอบ อายุ 26 ปี หนึ่งในนางโชว์เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า หลังจากที่ไม่มีงานมานานกว่า 4 เดือน จึงรวมตัวกันและนำเงินก้อนสุดท้ายที่หามาได้ จากการทำงานมาเปิดร้านยำ ครั้งแรกที่เปิดร้าน พวกเราใส่ชุดนางโชว์มาบริการลูกค้าในช่วงวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ ตอนแรกมีการจัดแสดงโชว์เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสุขเพลิดเพลิน แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้มาขอไว้ เราเลยต้องขอยกเลิกการแสดงไปก่อน ต่อมาเจ้าหน้าที่ปลดล็อก จึงเปิดร้านและสวมชุดนางรำมาบริการลูกค้าอีกครั้ง เพราะพวกเราก็ชอบกินยำต่าง ๆ ช่วยกันคิดปรับปรุงสูตรจนลงตัวถูกปากลูกค้า ชื่อร้านผวนมาจากคำว่าเริงระบำ กับยำ โดยอนาคตเราก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นอย่างไร ก็ยังรออยู่ แม้เปิดเฟสหางานก็ยังไม่แน่ใจว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยว จะได้กลับไปทำการงานการแสดงที่เรารักหรือไม่