ครอบครัว “จารุชาติ” พยานปากเอก “คดีบอส ทายาทกระทิง” เดินทางจากเชียงราย มาทำพิธีสูตรถอนวิญญาณ ก่อนจะมีพิธิฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้

ครอบครัวนายจารุชาติ มาดทอง หนุ่มพยานปากเอกคดีบอส วรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดงที่ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวกันเสียชีวิตที่เชียงใหม่เดินทางมาทำพิธีสูตรถอนวิญญาณตามความเชื่อของชาวล้านนานำดวงวิญญานคนตายกลับบ้านเกิดที่จังหวัดเชียงรายก่อนจะมีพิธิฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้

นางตา วังมูล อายุ 76 ปี และนายสมาน วังมูล อายุ 65 ปี พ่อแม่และญาติ ๆ ของนายจารุชาติ มาดทอง อายุ 40 ปี พยานคนสำคัญในคดีที่นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทกระทิงแดงขับรถชนตำรวจเสียชีวิต เมื่อปี 2555 เดินทางโดยรถตู้ จากจังหวัดเชียงราย มายังจุดเกิดเหตุบริเวณถนนห้วยแก้ว ใกล้สามแยกฟ้าธานี อำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดที่นายจารุชาติประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อกลางดึกของวันที่ 30 กรกฏาคมที่ผ่านมา เพื่อทำพิธีสูตรถอนดวงวิญญาณจากจุดเกิดเหตุ ตามความเชื่อของชาวล้านนาทางภาคเหนือ ที่เชื่อว่า เมื่อมีคนตายอยู่ ณ ที่ใด วิญาณของผู้ตายก็จะติดอยู่ตรงจุดนั้นไม่ไปไหน เมื่อจะนำศพไปฝังหรือเผา จะต้องทำพิธีสูตรถอนให้ดวงวิญญาณไปกับศพ เพื่อจะได้ไปผุดไปเกิดใหม่

โดยญาติได้นิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป จากวัดวังม่วงมาทำพิธี ขณะที่ญาติได้เตรียมเครื่องเซ่นไหว้ทั้งตุงแดงข้าวตอกดอกไม้ธูปเทียน และสะตวง รวมทั้งตุ๊กตาผู้ชาย ที่เป็นตัวแทนของนายจารุชาติ ก่อนจะจุดเทียน 40 เล่มตามอายุของนายจารุชาติ เพื่อทำพิธีสูตรถอนดวงวิญญาณ

ขณะที่นางตา วังมูล อายุ 76 ปี แม่ของนายจารุชาติ บอกว่า ได้เดินทางออกจากจังหวัดเชียงรายมาตั้งแต่วันเวลาตี 4 เพื่อจะมาทำพิธีนี้ ซึ่งที่ผ่านมาทางครอบครัวไม่เคยทราบว่านายจารุชาติเดินทางมาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ทราบแต่ว่าทำงานที่กรุงเทพมหานคร และมาทราบข่าวอีกที่เพราะมีคนโทรศัพท์มาแจ้งว่านายจารุชาติ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชน โดยมีนางพยาบาลโทรศัพท์มาแจ้ง ราวตี 2 กว่า และจากนั้นก็มีชายคนหนึ่งโทรมาสอบถามว่าครอบครัวจะเดินทางมารับศพเมื่อใดเท่านั้น

นางตา ยืนยันว่า ไม่เคยทราบว่าลูกชายไปเป็นพยานในคดีสำคัญของทายาทกระทิงแดง และหลังเกิดเหตุก็ไม่ได้รับการติดต่อหรือได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัวของนายบอสแต่อย่างใด และตนเองก็ไม่ติดใจการตายของลูกชาย เพราะเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ และคงจะไม่เรียกร้องอะไร โดยพรุ่งนี้ก็จะทำพิธีเผาศพลูกชายแล้วเพราะเก็บศพไว้นานครอบครัวไม่มีเงินต้องไปกู้ยืมเงินมาจัดงานศพ ได้เงินทำศพจากเงินสมาชิกฌาปนกิจศพ ไม่มีใครยื่นมือเข้าไม่มาช่วยเหลือ

ส่วนความคืบหน้าทางคดี พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าจากการรวบรวมพยานหลักฐาน จากกล้องวงจรปิด เบื้องต้นตอนนี้สรุปได้ว่าเป็นอุบัติเหตุ เพราะเรามีการตรวจสอบกล้องทุกจุด ทุกเส้นทางที่ทั้งสองขับรถ โดยเริ่มต้นทั้งสองไปนั่งดื่มสุราที่ร้านขายสุรา ย่านพืชสวนโลก ถนนคันคลองชลประทาน แต่นั่งคนละโต๊ะ พอร้านปิดนายสมชาย ตาวิโน อายุ 50 ปี คู่กรณีก็หยิบเหล้าออกจากร้าน และมาเจอนายจารุชาติ ผู้ตายนั่งคนเดี่ยวหน้าร้าน นายสมชาย จึงชวนนายจารุชาติ ที่พึ่งรู้จักกันว่าไปต่อร้านสาว แถวสันติธรรม ทั้งสองจึงขับรถตามกันมาระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร และมาประสบเหตุเฉี่ยวชนกันเองจนเสียชีวิต ซึ่งหากนายสมชาย รับงานมา ตลอดเส้นทางเป็นทางมืดเปลี่ยว ก็มีโอกาสมากมาย แต่นี้มาเกิดในเมืองด้วยการเฉียวชนของนายจารุชาติ เอง ซึ่งก็ไม่มีความผิดปกติอะไร แต่อย่างไรก็ดีก็จะมีการสอบสวน หาหลักฐานพยานเพิ่มเติม เพื่อคลายข้อสงสัยในคดีนี้ทั้งหมด ส่วนผู้ตายเป็นพยานในคดีสำคัญหรือไม่ จากการตรวจสอบตามระบบชื่อพยาน นายจารุชาติ มาดทอง อายุ บ้านเลขที่ มีคนเดียวในประเทศไทย ตรงกับในสำนวน แต่ยังไม่ยืนยันว่าใช่พยานหรือไม่ต้องรอการตรวจสอบจากทุกหน่วยงานเพื่อยืนยันอีกครั้งหนึ่ง

ร่วมแสดงความคิดเห็น